ฉีดฟิลเลอร์ยี่ห้อไหนดี ? ทริคการเลือก และ 3 ยี่ห้อยอดฮิตในคลินิกความงาม
ฉีดฟิลเลอร์ ยี่ห้อไหนดี
ฉีดฟิลเลอร์ ยี่ห้อไหนดีที่สุด ? คงเป็นคำถามที่ผู้เข้าวงการปรับรูปหน้าด้วยฟิลเลอร์หลายคนสงสัย เพราะในปัจจุบันมีฟิลเลอร์ให้เลือกหลายแบรนด์และหลายรุ่น แถมยังมีคุณสมบัติและจุดเด่นแตกต่างกันออกไปอีกด้วยค่ะ
สำหรับสาว ๆ คนไหนที่เลือกไม่ถูก ยี่ห้อนั้นก็ดี ยี่ห้อนี้ก็เด่น Gangdara จะพาไปดูกันค่ะ ว่าสิ่งที่ต้องรู้ก่อนเลือกยี่ห้อฟิลเลอร์มีหลักเกณฑ์อะไรบ้าง ? รวมถึงแนะนำฟิลเลอร์ยี่ห้อที่หลาย ๆ คลินิกเสริมความงามให้ความไว้วางใจ ว่ามีจุดเด่นอย่างไร และใช้ฉีดแก้ไขปัญหาผิวหน้าในจุดไหนได้บ้าง ? ไปดูกันเลยค่ะ
คลิกอ่านหัวข้อ ฉีดฟิลเลอร์ ยี่ห้อไหนดี
เลือกฉีดฟิลเลอร์ ยี่ห้อไหนดี ต้องพิจารณาอะไรบ้าง ?
ฟิลเลอร์ในท้องตลาดที่มีหลายยี่ห้อหลายรุ่น ทุกตัวเป็นสารไฮยาลูโรนิก แอซิด (Hyaluronic Acid หรือ HA) เหมือนกันค่ะ แต่มีลักษณะเนื้อเจลและคุณสมบัติแตกต่างกัน ถ้าแบ่งกลุ่มให้เข้าใจง่าย ๆ จะได้เป็น 5 ประเภทตามรายละเอียดในรูป
ในการเลือก Filler ยี่ห้อไหนดีสุด จะต้องให้คุณหมอช่วยประเมินให้ก่อนฉีดฟิลเลอร์ค่ะ ซึ่งมักจะใช้เกณฑ์เหล่านี้
- ยี่ห้อที่ผ่านการรับรองความปลอดภัย ก่อนจะฉีดฟิลเลอร์ ยี่ห้อไหนดี หรือรุ่นไหน ก็ควรต้องเลือกจากยี่ห้อที่ผ่านอย.ไทยค่ะ หากยี่ห้อนั้นผ่านการรับรองจากหน่วยงานอื่น ๆ เช่น U.S. FDA, CE Marking, KFDA, CFDA, EDQM ก็ยิ่งช่วยเพิ่มความมั่นใจได้
- ตำแหน่งที่ฉีดและชั้นผิว หากเป็นการฉีดปรับโครงสร้างใบหน้า เสริมจมูก เสริมคาง คุณหมอจะใช้ฟิลเลอร์เนื้อแน่นหรือเนื้อทนเพราะเป็นการฉีดเสริมกระดูกค่ะ แต่ถ้าเป็นฉีดเก็บรายละเอียดผิวชั้นตื้น ก็จะใช้ฟิลเลอร์เนื้อละเอียดหรือเนื้อฉ่ำ
- ราคา ฟิลเลอร์ที่นิยมใช้กันจะเป็นกลุ่มพรีเมียมจากยุโรป อเมริกาค่ะ ซึ่งจะมีราคาเริ่มต้น 12,xxx .-/ 1 CC สาว ๆ ที่มีงบจำกัด จะมีฟิลเลอร์เกาหลีที่ราคาย่อมเยาว์ เริ่มต้นที่ 8,xxx .-/ 1 CC แต่ถ้าราคาถูกเกินไป ก็มีความเสี่ยงเป็นของปลอม หรือยาหิ้วที่เป็นอันตรายได้ค่ะ
- ความคุ้มค่า แม้ฟิลเลอร์ยี่ห้อจากเกาหลีจะถูกกว่า แต่อยู่ได้สั้นกว่าค่ะ ประมาณ 6-9 เดือน เมื่อเทียบกับฟิลเลอร์พรีเมียมที่อยู่ได้นาน 12-18 เดือน ถือเป็นตัวเลือกที่คุ้มค่า ไม่ต้องเติมบ่อย อ่านเพิ่มเติมได้ในบทความฟิลเลอร์อยู่ได้นานแค่ไหน ? แต่ละยี่ห้อต่างกันอย่างไร ?
ฟิลเลอร์มีกี่ยี่ห้อ ที่ได้รับความนิยมจากคลินิก
ก่อนเราจะไปดูว่า ฟิลเลอร์มีกี่ยี่ห้อที่ได้รับความนิยมจากคลินิกความงาม เรามาดูยี่ห้อที่ผ่านอย.ไทยก่อนค่ะ ซึ่งก็มีหลายยี่ห้อ จากหลายประเทศ อัปเดตปีนี้มีดังนี้
แม้ยี่ห้อฟิลเลอร์เหล่านี้จะผ่านอย.ไทยแล้ว แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าทุกรุ่นใน Filler แต่ละยี่ห้อจะผ่านทั้งหมดนะคะ และทางหน่วยงานจะมีการตรวจสอบมาตรฐานอยู่เรื่อย ๆ รายชื่อยี่ห้อที่ผ่านอย.ไทยจึงมักมีการปรับเปลี่ยน ทางที่ดีก่อนฉีดฟิลเลอร์ ยี่ห้อไหนดี หรือรุ่นไหน แนะนำให้สาว ๆ อัปเดตข้อมูลอีกทีค่ะ
ส่วนใหญ่ฟิลเลอร์ยี่ห้อที่คลินิกความงามนิยมใช้จะมีอยู่ 3 ยี่ห้อ คือ Restylane, Juvederm และ Belotero เพราะผลิตมายาวนาน และผ่านการรับรองจากทั้ง อย.ไทย และ U.S. FDA ซึ่ง Filler แต่ละยี่ห้อมีจุดเด่น ดังนี้
- ฟิลเลอร์ยี่ห้อ Restylane จากสวีเดน : ฟิลเลอร์แบรนด์แรกของโลก ผลิตมายาวนานที่สุด มีจุดเด่นอยู่ที่การพัฒนาขนาดโมเลกุลฟิลเลอร์ที่หลากหลาย มีหลายรุ่น สามารถฉีดแก้ปัญหาได้ครอบคลุมทุกจุดบนใบหน้า
- ฟิลเลอร์ยี่ห้อ Juvederm จากอเมริกา : ฟิลเลอร์คุณภาพสูง เนื้อเจลมีส่วนผสมยาชาทุกรุ่น จุดเด่นอยู่ที่สามารถอยู่ได้นานกว่าหลายยี่ห้อ และให้ผลลัพธ์ดูเป็นธรรมชาติ โมเลกุลของฟิลเลอร์ยึดเกาะกันดี หลังฉีดเรียบเนียน ไม่เป็นก้อน และช่วยเรื่องยกกระชับ
- ฟิลเลอร์ยี่ห้อ Belotero จากสวิตเซอร์แลนด์ : หลายคนรู้จักกันในชื่อ Colorful Filler ด้วยตัวกล่องสีสันสดใสค่ะ จุดเด่นอยู่ที่เนื้อเจลมีความยืดหยุ่น เกาะกันเป็นเนื้อเดียว ไม่ไหล ไม่เป็นก้อน และมีความคงตัว ปั้นทรงสวย สามารถฉีดเสริมกระดูกและเนื้อเยื่อผิวหนังที่ยุบตัวลงตามวัยได้
นอกจากนี้ในคลินิกความงามบางแห่งอาจมีตัวเลือกฟิลเลอร์ยี่ห้ออื่น ๆ อีก เช่น
- ฟิลเลอร์ยี่ห้อ Definisse จากอิตาลี : สาร HA สานกันเป็นร่างแห่ ช่วยเรื่องยกพยุง และสามารถใช้เติมเต็มร่องลึก ริ้วรอย หรือปรับรูปหน้าให้ดูเป็นธรรมชาติ
- ฟิลเลอร์ยี่ห้อ Teoxane จากสวิตเซอร์แลนด์ : เนื้อเจลใกล้เคียงกับ HA ที่มีอยู่ในผิวของเราตามธรรมชาติ และมีความยืดหยุ่นสูงไปตามการเคลื่อนไหวของใบหน้า ให้ผลลัพธ์ที่ดูเป็นธรรมชาติ
- ฟิลเลอร์ยี่ห้อ Neuramis จากเกาหลี : จุดเด่นอยู่ที่มีความยืดหยุ่น คงตัวสูง และมีค่าการอุ้มน้ำที่เหมาะสม ทำให้ไม่บวมหลังฉีด
- ฟิลเลอร์ยี่ห้อ Flore จากเกาหลี : จุดเด่นอยู่ที่ในเนื้อเจลมีทั้งเนื้อแน่นและเนื้ออ่อนผสมกัน จึงเป็นฟิลเลอร์ที่มีความแข็งและยืดหยุ่น ขึ้นรูปได้ดี แต่ก็ยังให้ผลลัพธ์ที่ดูละมุน สลายตัวช้า
ฉีดฟิลเลอร์แต่ละตำแหน่ง ควรใช้ยี่ห้อไหนดี รุ่นไหนดีสุด ?
บางตำแหน่งสามารถใช้ฟิลเลอร์รุ่นเดียวก็เพียงพอแล้ว แต่บางจุดก็อาจจะต้องใช้หลายรุ่นควบคู่กันไป เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดูเป็นธรรมชาติค่ะ ซึ่งคุณหมอจะช่วยประเมินจากโครงสร้างใบหน้า และสภาพผิว ว่าควรใช้ Filler ยี่ห้อไหนดีสุด และวางแผนการรักษาเป็นรายบุคคลค่ะ แต่ละตำแหน่งใช้ฟิลเลอร์รุ่นไหนได้บ้าง ? ไปดูกันเลย
ฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา ยี่ห้อไหนดี ?
ปัญหาใต้ตาเกิดได้จากหลายสาเหตุค่ะ เช่น เนื้อเยื่อและชั้นไขมันยุบตัว หรือกระดุกทรุดตัว ในบางเคสคุณหมออาจแนะนำให้ใช้ฟิลเลอร์มากกว่า 1 รุ่น เพื่อแก้ปัญหาได้อย่างครอบคลุม
สำหรับการฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาในผิวชั้นตื้น ๆ จะนิยมใช้รุ่นที่เนื้อเจลละเอียด ไม่ฟูมาก เพราะผิวบริเวณนี้ค่อนข้างบาง ถ้าฟิลเลอร์ฟูมากไปจะทำให้ตาดูบวม ส่วนในกรณีที่เป็นร่องลึกจากการทรุดตัวของกระดูกจะนิยมใช้ฟิลเลอร์รุ่นที่เนื้อค่อนข้างแน่น และอยู่ได้นาน
- Restylane Defyne
- Restylane Vital Light
- Restylane Vital
- Restylane Perlane Lyft
- Restylane Classic
- Juvederm Voluma
- Juvederm Volite
- Juvederm Volux
- Belotero Volume
- Belotero Revive
- Belotero Soft
ฉีดฟิลเลอร์ปาก ยี่ห้อไหนดี ?
ฟิลเลอร์ปากเป็นจุดที่ได้รับความนิยมมากค่ะ เพราะสามารถทำปากได้หลายทรงตามที่ต้องการ ทั้งปากทรงธรรมชาติ ปากเกาหลี ปากสายฝอ หรือปากกระจับ รวมถึงเพิ่มความชุ่มชื้น แก้ปัญหาปากแห้งแตก ริ้วรอย ทาลิปแล้วตกร่อง บริเวณนี้นิยมใช้ฟิลเลอร์รุ่นที่มีความยืดหยุ่นสูง เพราะมีการขยับบ่อย เช่น
- Restylane Vital Light
- Restylane Volyme
- Restylane Refyne
- Restylane Kysse
- Juvederm Ultra Plus
- Juvederm Voluma
- Juvederm Volift
- Juvederm Volite
- Belotero Volume
- Belotero Revive
ฉีดฟิลเลอร์ร่องแก้ม ยี่ห้อไหนดี ?
ในการฉีดฟิลเลอร์ร่องแก้ม สามารถแก้ปัญหาร่องแก้มลึก ใบหน้าดูแก่กว่าวัยได้จากหลายสาเหตุค่ะ เช่น กระดูกทรุดตัว ผิวแห้ง หรือชั้นผิวบางลง ซึ่งมีให้เลือกหลายยี่ห้อและรุ่น ที่นิยมจะเป็นรุ่นที่หลังฉีดค่อนข้างฟู เพื่อให้ร่องแก้มเต็มสวย ไม่เป็นก้อน
- Restylane Volyme
- Juvederm Ultra Plus
- Juvederm Voluma
- Juvederm Volift
- Juvederm Volux
- Belotero Intense
ฉีดฟิลเลอร์คาง ยี่ห้อไหนดี ?
การฉีดฟิลเลอร์คางช่วยแก้ปัญหาคางตัด คางสั้น หรือคางบุ๋ม ซึ่งจะฉีดในผิวชั้นลึก เพื่อเสริมกระดูก นิยมใช้ฟิลเลอร์ที่คงตัวสูง เนื้อค่อนข้างแข็ง และไม่ฟู เช่น
- Restylane Perlane Lyft
- Juvederm Voluma
- Juvederm Volux
- Belotero Intense
ฉีดฟิลเลอร์ขมับ ยี่ห้อไหนดี ?
การฉีดฟิลเลอร์ขมับช่วยเติมขมับตอบให้เต็มสวย ปรับใบหน้าให้ได้สัดส่วน และดูอ่อนหวานมากขึ้นค่ะ เหมาะกับสาว ๆ ที่อยากปรับแก้ใบหน้าเล็กน้อย แต่ไม่อยากให้โป๊ะว่าไปทำอะไรมา นิยมใช้รุ่นที่ฉีดแล้วฟู ทนต่อการขยับได้ดี
- Restylane Volyme
- Juvederm Ultra Plus
- Juvederm Voluma
- Juvederm Volux
ฉีดฟิลเลอร์หน้าผาก ยี่ห้อไหนดี ?
ฟิลเลอร์หน้าผากช่วยเติมริ้วรอยหน้าผาก หรือเพิ่มความโหนกนูนตามโหงวเฮ้งหน้าผากรับทรัพย์ นิยมฉีดคู่กับฟิลเลอร์ขมับ เพื่อให้เต็มสวยและรับกันพอดี จะใช้รุ่นที่เนื้อเจลค่อนข้างละเอียด เกลี่ยง่าย ไม่เป็นก้อน เช่น
- Restylane Vital
- Juvederm Volbella
ฉีดฟิลเลอร์จมูก ยี่ห้อไหนดี ?
ฟิลเลอร์จมูกจะเหมาะกับผู้ที่มีฐานจมูกเดิมอยู่แล้ว ต้องการปรับแก้เล็ก ๆ น้อย ๆ ให้จมูกสวยเป๊ะ เช่น เพิ่มความโด่ง หรือเติมปลายหยดน้ำให้ใบหน้าดูอ่อนหวาน เหมาะกับรุ่นที่มีความคงตัวสูง และไม่ฟู เสริมจมูก Filler ยี่ห้อไหนดีสุด แนะนำเป็น
- Restylane Perlane lyft
ฉีดฟิลเลอร์ ยี่ห้อไหนดี ? ฟิลเลอร์แท้ มีวิธีสังเกตอย่างไร ?
ฟิลเลอร์แท้มีวิธีดูต่างกันไปตามแต่ละยี่ห้อและรุ่น แต่เราสามารถตรวจสอบเบื้องต้นจากวิธีนี้ได้ค่ะ
- ฟิลเลอร์มีเลขทะเบียน อย. และเอกสารกำกับภาษาไทย
- เลข lot. ตรงกันทั้งกล่อง หลอด และสติกเกอร์ สามารถโทรตรวจสอบบริษัทนำเข้าเพื่อยืนยันได้
- ในกล่องมีจำนวนเข็มถูกต้อง พร้อมระบุวันหมดอายุชัดเจน
- แพทย์ทำการแกะฟิลเลอร์ให้ดูต่อหน้า โดยตัวกล่องไม่มีรอยแกะมาก่อน
จะรู้ได้อย่างไร ว่าควรฉีดฟิลเลอร์ยี่ห้อไหนดีที่สุด ?
จำเป็นต้องประเมินใบหน้ากับคุณหมอค่ะ ในปัจจุบันมีคลินิกความงามหลายแห่งที่ให้บริการฟรี ไม่มีค่าใช้จ่าย สามารถส่งรูปถ่าย หรือ Inbox ไปจองคิวที่คลินิกสาขาใกล้บ้านได้เลย สะดวกมาก ๆ ค่ะ
ที่สำคัญก่อนจะใช้บริการที่ไหน ก็ควรเช็กความน่าเชื่อถือของแพทย์และคลินิกร่วมด้วย ดูเคสรีวิว ดูเลขที่ใบอนุญาต หรือประวัติของแพทย์ ข้อมูลเหล่านี้ส่วนใหญ่อยู่ในเว็บไซต์คลินิกค่ะ
สรุปเลือกฉีดฟิลเลอร์ ยี่ห้อไหนดี ?
ฉีดฟิลเลอร์ยี่ห้อไหนดี ? จากยี่ห้อฟิลเลอร์ตัวท็อปที่เราได้มาแนะนำนั้น ทุกคนจะเห็นว่าฟิลเลอร์แต่ละยี่ห้อมีคุณสมบัติเด่นที่ใช้แก้ไขปัญหาต่างกันออกไป ดังนั้นใครที่สนใจฉีดฟิลเลอร์ เราแนะนำให้พบแพทย์เพื่อประเมินปัญหาผิวหน้าในเบื้องต้นก่อนจะดีที่สุด เพราะแพทย์จะได้วางแผน และเลือกยี่ห้อฟิลเลอร์ที่เหมาะสมกับปัญหาใบหน้าที่เราต้องการแก้ไขค่ะ
แต่สิ่งสำคัญที่สุดในการฉีดฟิลเลอร์ คือ การฉีดฟิลเลอร์แท้ที่ได้รับการรับรองจาก อย. ของไทย เช่น ฟิลเลอร์ Restylane, ฟิลเลอร์ Juvederm, ฟิลเลอร์ Belotero เป็นต้น และควรเลือกฉีดฟิลเลอร์กับแพทย์ที่มีประสบการณ์มากพอ เพื่อผลลัพธ์ที่คุ้มค่า และมีประสิทธิภาพที่สุดค่ะ