ฉีดโบท็อกยกหางตา
หางตาตกและริ้วรอยรอบดวงตาเป็นปัญหาที่ทำให้ใบหน้าดูเหนื่อยล้าและมีอายุ การฉีดโบท็อกยกหางตา เป็นวิธีช่วยให้หางตายกขึ้น ลดเลือนริ้วรอย และทำให้ดวงตาดูสดใสขึ้นโดยไม่ต้องผ่าตัด ผลลัพธ์เป็นธรรมชาติ ไม่ต้องพักฟื้น เหมาะสำหรับผู้ที่มีหางตาตกเล็กน้อยและต้องการปรับรูปตาให้สมดุล
ในบทความนี้ Gangdara จะอธิบายเกี่ยวกับ การฉีดโบท็อกยกหางตา ตั้งแต่หลักการทำงาน ตำแหน่งที่ฉีด ยี่ห้อโบท็อกที่แนะนำ รีวิวผลลัพธ์ รวมถึงราคา พร้อมเปรียบเทียบกับวิธีอื่น ๆ ที่สามารถช่วยยกหางตาได้ เพื่อเป็นข้อมูลประกอบการตัดสินใจครับ
คลิกอ่านหัวข้อ ฉีดโบท็อกยกหางตา
การฉีดโบท็อกยกหางตา คืออะไร ?
การฉีดโบท็อกยกหางตา คือการใช้สารโบทูลินัมท็อกซิน (Botulinum Toxin) ฉีดเข้าไปในบริเวณรอบดวงตา เพื่อช่วยคลายกล้ามเนื้อที่ดึงรั้งหางตา เมื่อกล้ามเนื้อคลายตัว หางตาจะดูยกขึ้นและดวงตาดูสดใสขึ้น โดยไม่จำเป็นต้องผ่าตัด
เทคนิคนี้ได้รับความนิยม เนื่องจากสามารถแก้ปัญหาหางตาตกจากความหย่อนคล้อยของกล้ามเนื้อ อีกทั้งยังช่วยลดเลือนริ้วรอยเล็ก ๆ ทำให้ใบหน้าดูอ่อนเยาว์และมีความสดใสมากขึ้นครับ
ฉีดโบท็อกยกหางตา ช่วยเรื่องอะไรบ้าง ?
- ช่วยยกหางตาให้ดวงตาดูสดใสขึ้น : ผลการของการใช้โบท็อกยกหางตาโดยทั่วไปจะอยู่ในช่วงประมาณ 10-15% ซึ่งช่วยให้ดวงตาดูเปิดกว้างและมีชีวิตชีวามากขึ้นครับ
- ช่วยลดเลือนริ้วรอยรอบดวงตา : โดยเฉพาะริ้วรอยเล็ก ๆ อย่างรอยย่นหางตา รอยตีนกา รอยย่นใต้ตา และรอยย่นขมวดคิ้ว ช่วยให้ผิวรอบดวงตาดูเรียบเนียนขึ้น
- ช่วยแก้ไขปัญหาตาปรือและตาตก : เมื่อหนังตาหรือกล้ามเนื้อรอบดวงตาหย่อนคล้อย จะส่งผลทำให้ใบหน้าดูเหนื่อยล้า และดูมีอายุ การฉีดโบท็อกยกหางตา สามารถช่วยแก้ไขปัญหาเหล่านี้ได้ครับ
- ช่วยปรับสมดุลรูปตา : ช่วยปรับรูปตาให้ดูเป็นธรรมชาติและเข้ากับโครงสร้างใบหน้ามากยิ่งขึ้น
- ช่วยเสริมโหงวเฮ้ง : รูปตาที่โตสวย สมส่วนรับกับใบหน้า สามารถช่วยเสริมโหงวเฮ้งตาให้ดีขึ้น ช่วยเพิ่มความมั่นใจได้ครับ
โบท็อกยกหางตา ฉีดบริเวณใด ?
การฉีดโบท็อกยกหางตา จะมีตำแหน่งฉีดหลัก ๆ 3 จุด ได้แก่
- บริเวณรอบหางตา เพื่อลดริ้วรอยตีนกา
- บริเวณหน้าผาก เพื่อลดริ้วรอย
- บริเวณระหว่างคิ้ว เพื่อลดริ้วรอยย่น
โดยแพทย์จะฉีดโบท็อกเพื่อให้กล้ามเนื้อทั้ง 3 จุดนี้ทำงานน้อยลง เมื่อกล้ามเนื้อตรงกลางถูกล็อก จะส่งผลให้กล้ามเนื้อด้านข้างดึงขึ้น ทำให้ช่วยยกหางตาได้
อย่างไรก็ตาม ตำแหน่งที่ฉีดโบท็อกยกหางตาในแต่ละคนอาจแตกต่างกันไปตามลักษณะปัญหาที่พบ จึงต้องอาศัยความชำนาญของแพทย์ในการประเมินและกำหนดตำแหน่งฉีดที่เหมาะสม เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดูเป็นธรรมชาติมากที่สุดครับ
นอกจากนี้ ในบางกรณี อาจจำเป็นต้องใช้ฟิลเลอร์ร่วมด้วย ที่บริเวณใต้คิ้วและขมับ เพื่อช่วยเสริมให้ได้ผลลัพธ์ที่ดียิ่งขึ้น ทั้งในแง่ของการยกกระชับและความสมดุลของใบหน้าครับ
Botox ยกหางตา เหมาะกับใครบ้าง ?
การฉีดโบท็อกยกหางตามีความเหมาะสมกับผู้ที่มีปัญหาผิวหย่อนคล้อยและริ้วรอยบริเวณหางตา รวมถึงรอบดวงตา เช่น
- ผู้ที่ต้องการให้ดวงตาดูโตและเด่นชัดขึ้น
- ผู้ที่ต้องการความมั่นใจในการแสดงสีหน้า ยิ้ม หัวเราะ โดยไม่ต้องกังวลเรื่องริ้วรอยที่เกิดขึ้นบริเวณหางตา
- ผู้ที่มีปัญหาหนังตาตกจากความหย่อนคล้อยของหางตา
- ผู้ที่ต้องการลดเลือนริ้วรอยเล็ก ๆ ใต้ตาที่เกิดจากปัญหาหางตาตก
รีวิวฉีดโบท็อกยกหางตา
ก่อนฉีด : จะเห็นว่ามีริ้วรอย โดยเฉพาะบริเวณหน้าผากและรอยตีนกา เมื่อขยับกล้ามเนื้อ ใบหน้าจะเกิดรอยพับชัดเจน
หลังฉีด : ริ้วรอยลดลงอย่างเห็นได้ชัด ผิวเรียบเนียนขึ้น และหางตาดูเปิดกว้าง สดใสขึ้น
ก่อนฉีด : จะเห็นรอยย่นที่ชัดเจนเมื่อแสดงสีหน้า เช่น เวลายิ้มหรือหัวเราะ
หลังฉีด : ริ้วรอยหางตาลดลงอย่างเป็นธรรมชาติ ทำให้ดวงตาดูสดใส อ่อนเยาว์ขึ้น
ฉีดโบท็อกยกหางตา ใช้ยี่ห้อไหนดี ?
สำหรับการฉีดโบท็อกยกหางตา มีโบท็อกให้เลือกใช้หลายยี่ห้อ จากหลากหลายประเทศครับ ได้แก่ โบท็อกยี่ห้อ Allergan (อเมริกา), Dysport (อังกฤษ), Xeomin (เยอรมัน), รวมถึง Nabota, Neuronox และ Aestox (เกาหลี) ซึ่งแต่ละยี่ห้อมีความแตกต่างกันทั้งในแง่ของความบริสุทธิ์ของตัวยา ชนิดของ Protein Complex และขนาดของ Molecule Complex ซึ่งส่งผลต่อประสิทธิภาพในการรักษาที่แตกต่างกัน
การเลือกยี่ห้อในการฉีดโบท็อกยกหางตาที่เหมาะสม จึงควรพิจารณาจากหลายปัจจัย ทั้งสภาพผิวและปัญหาของผู้รับการรักษา รวมถึงงบประมาณที่มี
ดังนั้น แพทย์ที่มีประสบการณ์ จะเป็นผู้ประเมินและวางแผนการรักษาให้กับแต่ละเคส เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีและคุ้มค่ากับราคามากที่สุดครับ
ราคาฉีดโบท็อกยกหางตา
ฉีดโบท็อกยกหางตา ราคาเริ่มต้นอยู่ที่ประมาณ 2,500 บาท สำหรับปริมาณ 25 ยูนิต เนื่องจากการฉีดโบท็อกยกหางตาเป็นการฉีดในบริเวณเล็ก ๆ ทั้งนี้ ราคายังขึ้นอยู่กับยี่ห้อที่ใช้และปริมาณที่ฉีดด้วยครับ หากบางรายมีปัญหามาก อาจต้องใช้ยาในปริมาณมากขึ้นเพื่อให้ได้ผลลัพธ์ตามที่ต้องการ
ก่อนฉีดโบท็อกยกหางตา ควรเลือกคลินิกที่ได้มาตรฐาน มีแพทย์ประสบการณ์สูงเป็นผู้ฉีด รวมถึงตรวจสอบโบท็อกที่ใช้ว่าเป็นโบท็อกแท้ เพื่อความปลอดภัยและประสิทธิภาพในการรักษาที่ดีที่สุดครับ
หลังฉีดโบท็อกยกหางตา กี่วันเห็นผลลัพธ์ ?
หลังฉีดโบท็อกยกหางตาใน 3-4 วัน จะเริ่มเห็นการเปลี่ยนแปลง ว่าผิวบริเวณที่ฉีดจะตึงและยกขึ้น แสดงว่าโบท็อกเริ่มออกฤทธิ์แล้ว
หลังจากนั้นประมาณ 1-2 สัปดาห์ จึงจะเห็นผลชัดเจน โดยหางตาจะยกขึ้นสวยงามตามที่ต้องการ เพราะโบท็อกได้ออกฤทธิ์เต็มที่แล้วครับ
ฉีดโบยกหางตา อยู่ได้นานแค่ไหน ?
การฉีดโบยกหางตาให้ผลลัพธ์อยู่ได้นานประมาณ 4-5 เดือนครับ ขึ้นอยู่กับยี่ห้อของโบท็อกที่ใช้ และการดูแลตัวเองหลังฉีด
หากมีการดูแลตัวเองที่ดีหลังฉีด จะช่วยให้ผลลัพธ์อยู่ได้นานขึ้น เช่น การหลีกเลี่ยงการนวดหรือกดบริเวณที่ฉีด การใช้ครีมกันแดด และการดูแลผิวให้ชุ่มชื้นอยู่เสมอ หากรู้สึกว่าผลลัพธ์หลังฉีดโบท็อกยกหางตาเริ่มจางลง สามารถกลับมาฉีดซ้ำได้ (ตามคำแนะนำของแพทย์) เพื่อรักษาผลลัพธ์ที่ต้องการได้ครับ
สามารถยกหางตาด้วยวิธีอื่น นอกจากการฉีด Botox ได้ไหม ?
นอกจากการฉีดโบท็อกยกหางตาแล้ว ยังมีวิธีการทางการแพทย์อื่น ๆ ที่สามารถช่วยยกหางตาได้อีกด้วย โดยแพทย์จะประเมินและแนะนำวิธีที่เหมาะสม แก้ปัญหาได้ตรงจุด ตามลักษณะปัญหาของคนไข้ ดังนี้ครับ
- ร้อยไหม Foxy Eyes : เป็นวิธีที่ช่วยให้หางตายกขึ้นทันทีหลังทำ ไม่ต้องใช้เวลาพักฟื้น เหมาะสำหรับผู้ที่มีปัญหาหางตาตกและหนังตาหย่อนคล้อย
- Hifu Ultraformer III และ Ulthera : ใช้พลังงานคลื่นเสียงอัลตราซาวด์เพื่อกระชับผิวรอบดวงตาและยกคิ้ว ยกหางตา เหมาะสำหรับผู้ที่มีปัญหาหางตาตกเล็กน้อย
- Thermage FLX : ใช้คลื่นวิทยุในการยกกระชับผิว ลดริ้วรอยรอบดวงตา และแก้ไขปัญหาคิ้วตก หนังตาตก รวมถึงหางตาตก เหมาะสำหรับผู้ที่มีไขมันรอบดวงตาและเปลือกตาหย่อนคล้อย
- ผ่าตัดยกหางตา : เป็นวิธีที่ให้ผลลัพธ์ที่ชัดเจน และสามารถกำหนดระดับการยกได้ตามที่ต้องการเหมาะกับผู้ที่มีปัญหาหางตาตกมาก ๆ หนังตาตกย้อยลงมาปิดชั้นตา แต่หลังทำอาจต้องใช้เวลาพักฟื้น และต้องดูแลตัวเองหลังทำอย่างเคร่งครัด
สรุปฉีดโบท็อกยกหางตา วิธีแก้หางตาตกที่ง่ายและได้ผล
การฉีดโบท็อกยกหางตา เป็นวิธีช่วยยกกระชับหางตา ลดริ้วรอยรอบดวงตา โดยไม่ต้องผ่าตัด เหมาะกับผู้ที่มีหางตาตกเล็กน้อย สามารถยกขึ้นได้ประมาณ 10-15% แต่หากหางตาตกมาก ไม่อยากผ่าตัด อาจต้องใช้วิธีอื่นร่วม เช่น การร้อยไหม Foxy Eyes หรือใช้เครื่องมือยกกระชับผิว เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ชัดเจนยิ่งขึ้น
ดังนั้น ก่อนตัดสินใจควรปรึกษาแพทย์เพื่อเลือกวิธีที่เหมาะสม และควรทำกับคลินิกที่ได้มาตรฐาน ใช้โบท็อกแท้ ของแท้ เพื่อให้มั่นใจในความปลอดภัยและผลลัพธ์ที่ดีครับ