
3 วิธีดูวันหมดอายุครีมกันแดด เช็กอย่างไร ? สังเกตง่าย ดูได้ด้วยตัวเอง
วิธีดูวันหมดอายุครีมกันแดด
วิธีดูวันหมดอายุครีมกันแดด เป็นหนึ่งสิ่งที่สำคัญที่หลายคนอาจมองข้ามไป แต่ความจริงแล้วการใช้ครีมกันแดดหมดอายุ ส่งผลเสียต่อผิวของเรามากกว่าที่คิด ในบทความนี้ Gangdara ก็เลยจะมาบอกต่อวิธีเช็กครีมกันแดดหมดอายุกัน จะมีเทคนิควิธีเช็กอย่างไรบ้างตามไปดูกันเลย
คลิกอ่านหัวข้อ วิธีดูวันหมดอายุครีมกันแดด
วิธีดูวันหมดอายุครีมกันแดด เช็กอย่างไร ?
สำหรับใครที่สงสัยอยู่เหมือนกันว่า เราจะดูวันหมดอายุครีมกันแดดทาหน้าอย่างไรดี เราก็มี 3 วิธีดูวันหมดอายุครีมกันแดดแบบง่าย ๆ มาฝากกัน ดังนี้
การเช็กผ่านเว็บไซต์ออนไลน์
ขั้นตอนแรกเราสามารถดูวันหมดอายุครีมกันแดดได้จากเว็บไซต์ออนไลน์ ที่จะมีอยู่ 2 เว็บไซต์ที่นิยมเช็กกัน คือ Checkfresh.com และ Checkcosmetics.net
ซึ่งวิธีเช็กก็ง่ายมาก ๆ เพียงแค่ใส่ชื่อแบรนด์ และ เลข Batch Code ก็สามารถทราบวันหมดอายุกันแดดได้ทันที แต่วิธีนี้จะใช้ได้แค่กับบางแบรนด์ โดยเฉพาะแบรนด์ต่างประเทศเท่านั้นค่ะ ผลิตภัณฑ์กันแดดแบรนด์ไทยยังตรวจสอบไม่ค่อยได้เท่าไหร่

การดูสัญลักษณ์ PAO
สำหรับใครที่หาวันหมดอายุครีมกันแดดผ่านทางออนไลน์ไม่เจอ ก็แนะนำให้ใช้วิธีนี้เลย ก็คือ การดูสัญลักษณ์ PAO (Period After Opening) ซึ่งเป็นสัญลักษณ์รูปกระปุกเปิดที่มีตัวเลขกำกับ
เช่น 12M ซึ่งสัญลักษณ์นี้จะหมายความว่า ครีมกันแดดที่เราใช้สามารถใช้ได้ 12 เดือนหลังเปิดใช้งานครั้งแรก ถ้าเกินจากนั้นก็หมายความว่าครีมกันแดดหมดอายุ หรือไม่ควรใช้ครีมกันแดดนั้นอีกต่อไป บอกเลยค่ะว่าวิธีดูวันหมดอายุครีมกันแดดในข้อนี้เช็กง่ายสุด ๆ

การตรวจสอบจากวันที่ผลิตและวันหมดอายุ
นอกจากมีวิธีดูวันหมดอายุครีมกันแดดดผ่านเว็บไซต์ และสัญลักษณ์ PAO บนบรรจุภัณฑ์แล้ว สำหรับครีมกันแดดบางแบรนด์ ก็จะระบุวันที่ผลิต (MFG/MFD) และวันหมดอายุ (EXP/EXD) ไว้บนครีมกันแดดให้เลยค่ะ
ทำให้เราสามารถดูได้เลยว่าครีมกันแดดหมดอายุในช่วงไหน เพื่อหลีกเลี่ยงการใช้ครีมกันแดดหมดอายุ ที่อาจทำร้ายผิวสวย ๆ ของเราได้

ครีมกันแดดหมดอายุ มีลักษณะอย่างไร ?
วิธีดูวันหมดอายุครีมกันแดดอีกข้อที่สังเกตได้ด้วยตัวเอง คือ การเช็กผ่านเนื้อสัมผัสของครีมกันแดดค่ะ โดยครีมกันแดดที่หมดอายุมักมีลักษณะ ดังนี้
- เนื้อครีมเปลี่ยนสี จากสีขาวเป็นสีเหลืองหรือสีน้ำตาล เนื่องจากสารเคมีในครีมกันแดดทำปฏิกิริยากับออกซิเจนและแสง ทำให้เกิดการออกซิเดชันและเปลี่ยนสี
- มีกลิ่นผิดปกติ มีกลิ่นเหม็นหืน หรือกลิ่นแปลก ๆ เกิดจากน้ำมันในครีมเสื่อมสภาพ หรือการเจริญเติบโตของเชื้อจุลินทรีย์
- เนื้อครีมแยกชั้น เกิดการแยกตัวของน้ำและน้ำมัน สังเกตเห็นเป็นชั้นของเหลวใสด้านบนและครีมข้นด้านล่าง แสดงว่าสารอิมัลซิไฟเออร์ (Emulsifier) เสื่อมประสิทธิภาพ
- เนื้อสัมผัสเปลี่ยนไป อาจเหลวเกินไปหรือแข็งตัวผิดปกติ เกิดจากการเสื่อมสภาพของสารก่อเจล และสารให้ความคงตัว ทำให้โครงสร้างของครีมกันแดดเปลี่ยนแปลง
- มีการจับตัวเป็นก้อน หรือเกิดตะกอน เนื่องจากสารในครีมกันแดดแยกตัวออกจากกันและรวมตัวกันเป็นก้อน ทำให้เนื้อครีมไม่เนียนเป็นเนื้อเดียวกัน
- สีของครีมไม่เป็นเนื้อเดียวกัน มีจุดด่างหรือเป็นคราบ เกิดจากการเสื่อมสภาพของสารให้สีและสารกันแดด ทำให้เกิดการกระจายตัวไม่สม่ำเสมอ
โดยทั่วไปครีมกันแดดหมดอายุ หลังเปิดใช้งานกี่ปี ?
โดยทั่วไปครีมกันแดดจะมีอายุการใช้งานประมาณ 1-3 ปี สำหรับผลิตภัณฑ์ที่ยังไม่เปิดใช้
แต่หลังจากเปิดใช้งานแล้ว ควรใช้ให้หมดภายใน 6-12 เดือน ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับสูตรและส่วนผสมของผลิตภัณฑ์ รวมถึงวิธีการเก็บรักษา หากเก็บในที่เหมาะสม ไม่โดนแสงแดดหรือความร้อนโดยตรง จะช่วยยืดอายุการใช้งานได้ค่ะ
การใช้ผลิตภัณฑ์กันแดดหมดอายุ อันตรายไหม ?
การใช้ครีมกันแดดที่หมดอายุถือเป็นเรื่องอันตราย เนื่องจากประสิทธิภาพในการป้องกันรังสี UV จะลดลงอย่างมาก ทำให้ผิวไม่ได้รับการปกป้องอย่างเพียงพอ
นอกจากนี้ สารเคมีในครีมกันแดดอาจเกิดการเสื่อมสภาพและทำปฏิกิริยากับผิวหนัง ก่อให้เกิดการระคายเคืองหรือแพ้ครีมกันแดดได้ง่าย จึงควรหลีกเลี่ยงการใช้ครีมกันแดดที่หมดอายุแล้วค่ะ
คลิกอ่านเพิ่มเติม : อาการแพ้ครีมกันแดด เป็นอย่างไร ? ควรหลีกเลี่ยงสารกันแดดอะไรบ้าง ?

ผลข้างเคียงจากการใช้ครีมกันแดดหมดอายุ
การใช้ครีมกันแดดที่หมดอายุ มีผลข้างเคียงดังนี้
- เกิดอาการแพ้ คัน แดง หรือระคายเคืองผิวหนัง เพราะสารกันแดดที่เสื่อมสภาพอาจก่อให้เกิดการระคายเคืองและทำปฏิกิริยากับผิวได้มากขึ้น
- ผิวไหม้จากแสงแดดง่ายขึ้น เนื่องจากประสิทธิภาพการป้องกัน UV ลดลง ทำให้รังสี UV ทะลุผ่านและทำร้ายผิวได้มากขึ้น จนส่งผลทำให้ผิวแดง ผิวไหม้แดด หรือรู้สึกแสบร้อนผิว
- เกิดสิว ผดผื่น หรือปัญหาผิวอื่น ๆ เพราะเนื้อครีมกันแดดหมดอายุที่เสื่อมสภาพอาจอุดตันรูขุมขน และมีเชื้อแบคทีเรียปนเปื้อน
- ผิวหน้าอักเสบ บวมแดง หรือลอกเป็นขุย เกิดจากการตอบสนองของผิวต่อสารเคมีที่เสื่อมสภาพ และการระคายเคืองจากเชื้อจุลินทรีย์
- อาจเกิดการติดเชื้อบนผิวหนังได้ หากมีเชื้อแบคทีเรียปนเปื้อน เพราะสารกันเสียในครีมอาจเสื่อมประสิทธิภาพ ทำให้เชื้อจุลินทรีย์เจริญเติบโตได้
- เสี่ยงต่อการเกิดฝ้าและจุดด่างดำบนใบหน้า เนื่องจากการป้องกันแสงแดดไม่มีประสิทธิภาพ ทำให้เม็ดสีเมลานินทำงานผิดปกติ
ทำไมครีมกันแดดหมดอายุ หรือเสื่อมสภาพไว ?
ครีมกันแดดมักเสื่อมสภาพเร็วกว่าผลิตภัณฑ์ดูแลผิวชนิดอื่นค่ะ เนื่องจากมีสารกันแดดที่ไวต่อความร้อนและแสง เมื่อครีมกันแดดสัมผัสกับอากาศ แสงแดด หรือความร้อน จะทำให้โมเลกุลของสารกันแดดเกิดการเปลี่ยนแปลงและเสื่อมประสิทธิภาพ
นอกจากนี้ การเปิดฝาครีมบ่อย ๆ อาจทำให้ผลิตภัณฑ์กันแดดสัมผัสกับอากาศและเชื้อแบคทีเรีย รวมถึงการใช้นิ้วมือที่ไม่สะอาดสัมผัสครีมกันแดดในกระปุกโดยตรง ก็เป็นสาเหตุที่ทำให้ครีมกันแดดเสื่อมสภาพเร็วขึ้นค่ะ
สรุปวิธีดูวันหมดอายุครีมกันแดด ที่ควรเช็กก่อนทาผิว
สำหรับใครที่ไม่อยากเกิดปัญหาผิวต่าง ๆ ตามมา หรืออยากใช้ครีมกันแดดแบบได้ผลและมีประสิทธิภาพ การดูวันหมดอายุครีมกันแดด ก็เป็นสิ่งที่สำคัญมาก ๆ ดังนั้นก็อย่าลืมนำวิธีดูวันหมดอายุครีมกันแดดไปเช็กให้ชัวร์ก่อนทาผิวนะคะ
นอกจากนี้ บางครีมกันแดดอาจจะไม่มีวันหมดอายุโดยตรง แต่การที่เรานับวันหมดอายุหลังจากวันที่เปิดใช้ก็เป็นสิ่งที่สำคัญ เพราะหากเปิดใช้งานแล้ว ครีมกันแดดย่อมหมดอายุหรือเสื่อมสภาพตามเวลาได้ค่ะ