หลังฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา

หลังฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา มีผลข้างเคียงอย่างไร แบบไหนปกติ ควรดูแลตัวเองอย่างไร ?

หลังฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา

การฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา เป็นหนึ่งในวิธีที่ช่วยเพิ่มความสดใสให้กับดวงตาและใบหน้า ภายในเวลา 2 สัปดาห์ โดยไม่ต้องพักฟื้น ไม่ต้องผ่าตัด อย่างไรก็ตาม หลังฉีดฟิลเลอร์ใต้ตามีอะไรบ้างที่ควรรู้ ? 

ในบทความนี้ มีข้อมูลสำคัญเกี่ยวกับการดูแลตัวเองหลังฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุด พร้อมทั้งวิธีการสังเกตและป้องกันไม่ให้เกิดผลข้างเคียงที่ไม่คาดคิด และข้อควรรู้อื่น ๆ ที่สำคัญไม่แพ้กัน สามารถอ่านต่อด้านล่างได้เลยค่ะ

ฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา คืออะไร ?

การฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา คือ การใช้ สารไฮยาลูรอนิค แอซิด (Hyaluronic Acid) ฉีดเข้าไปเติมเต็มใต้ผิวหนังบริเวณใต้ตา เพื่อแก้ปัญหาริ้วรอยใต้ตา รอยตีนกา ขอบตาดำ ใต้ตาคล้ำ ถุงใต้ตา ใต้ตาหย่อนคล้อย เบ้าตาลึก และตาโหล เพื่อช่วยให้ผิวใต้ตาดูเรียบเนียน เต่งตึง อ่อนเยาว์ สดใสขึ้น 

อย่างไรก็ตาม ผลลัพธ์ที่สวยงาม ดูเป็นธรรมชาติ และอยู่ได้นาน ไม่ได้ขึ้นอยู่กับแค่การฉีดฟิลเลอร์กับหมอที่มีประสบการณ์สูง ใช้ฟิลเลอร์แท้ ในคลินิกที่มีมาตรฐานเท่านั้น แต่ยังขึ้นอยู่กับการดูแลตัวเองหลังฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาอย่างถูกต้องร่วมด้วย

ประโยชน์ของการฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา

ประโยชน์ของการฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา

การฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาช่วยเติมเต็มร่องลึก ลดริ้วรอย ทำให้ถุงใต้ตาและความหมองคล้ำดูจางลง ผลลัพธ์ที่ได้หลังฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา คือใต้ตาจะดูเรียบเนียน สดใส และใบหน้าดูอ่อนเยาว์ขึ้น นอกจากนี้ยังสามารถช่วยปรับปรุงโหงวเฮ้งใต้ตาให้ดีขึ้น ซึ่งตามความเชื่อ โหงวเฮ้งดวงตาที่ดี ส่งผลให้มีโชคลาภและความสุขในชีวิต ในขณะที่โหงวเฮ้งด้อย อาจนำมาซึ่งปัญหาในชีวิตและความสัมพันธ์

ขั้นตอนการฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา

ขั้นตอนการฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา

ขั้นตอนการฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาไม่ยุ่งยากค่ะ เริ่มแรกคือการพูดคุยกับแพทย์เพื่อให้แพทย์ประเมินและวางแผน จากนั้นค่อยทำความสะอาดและใช้ยาชาบริเวณที่จะฉีดเพื่อบรรเทาอาการเจ็บ เมื่อเตรียมเครื่องมือ เตรียมตัวยาฟิลเลอร์พร้อมแล้ว แพทย์จะฉีดฟิลเลอร์เข้าไปบริเวณใต้ตา พอเสร็จแล้ว ก็สามารถกลับบ้านได้ทันทีหลังทำ โดยไม่ต้องพักฟื้น

ขั้นตอนการฉีดฟิลเลอร์ 

1. ปรึกษาแพทย์• แจ้งแพทย์เกี่ยวกับปัญหาที่ต้องการแก้ไข
• แพทย์จะประเมินปัญหาและแนะนำยี่ห้อของฟิลเลอร์ และปริมาณที่เหมาะสม
• แจ้งแพทย์เกี่ยวกับโรคประจำตัว ยาที่ทาน และประวัติการแพ้
2. เตรียมตัวก่อนฉีด• งดดื่มแอลกอฮอล์ ยาบางชนิด วิตามิน และอาหารเสริม
• งดการแว็กซ์
• ทำความสะอาดใบหน้า
3. ขั้นตอนการฉีด• แพทย์จะทำความสะอาดบริเวณที่จะฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา
• ทายาชาบริเวณใต้ตา
• ฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา
• นวดเบา ๆ บริเวณที่ฉีด

ฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา กี่วันเห็นผล ?

หลังฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา สามารถเห็นผลการเปลี่ยนแปลงได้ทันที และเห็นผลชัดเจนเต็มที่ภายในเวลา 2 สัปดาห์ ว่าใต้ตาเต็มขึ้น ริ้วรอยลดลง ถุงใต้ตาลดลง และใต้ตาดูกระจ่างใสขึ้น 

ฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา กี่วันเห็นผล

ผลข้างเคียงหลังฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา แยกแยะแบบเข้าใจง่าย

การแยกแยะผลข้างเคียงหลังฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา เป็นสิ่งที่จำเป็น เพื่อให้เข้าใจถึงความรุนแรงของอาการ และสามารถรับมือ ป้องกันได้อย่างถูกต้อง ทันท่วงที

  1. ผลข้างเคียงที่พบบ่อย หลังฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา คือ มีอาการบวมและแดง, รอยช้ำ, และมีรอยเข็มเล็กน้อย อาจรู้สึกตึง ๆ หรือแน่นใต้ตา และมีความรู้สึกคันหรือระคายเคืองในบริเวณที่ฉีด ซึ่งอาการเหล่านี้มักไม่ร้ายแรงและจะหายไปเองใน 1-2 สัปดาห์
  1. ผลข้างเคียงที่ควรกลับมาแก้ไข หลังฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา สามารถแบ่งออกได้เป็น 2 ประเภท ทั้งจากเทคนิคการฉีดของแพทย์ และจากตัวยาฟิลเลอร์ ดังนี้
  • ผลข้างเคียงที่เกิดจากเทคนิคการฉีดของแพทย์ 
    • ฟิลเลอร์ไหล: ฟิลเลอร์ไหลไปบริเวณอื่น ไม่ได้อยู่ทรงตามตำแหน่งที่ฉีด
    • ฟิลเลอร์เป็นก้อน: เกิดจากการฉีดฟิลเลอร์ไม่สม่ำเสมอ หรือฟิลเลอร์จับตัวเป็นก้อน
    • ใต้ตาบวม: บวมมาก บวมนาน เกิน 3 วัน
    • ใต้ตาอักเสบ: เกิดการอักเสบติดเชื้อ
    • ใต้ตาคล้ำ: คล้ำขึ้นกว่าก่อนฉีด
    • ใต้ตาไม่สมมาตร: ข้างหนึ่งดูบวม หนา หรือสูงกว่าอีกข้าง
    • รอยเขียวช้ำ: เขียวช้ำมาก

สาเหตุของอาการเหล่านี้ ส่วนใหญ่มักเกิดมาจากแพทย์ฉีดฟิลเลอร์ในตำแหน่งที่ไม่ถูกต้อง ฉีดฟิลเลอร์มากเกินไป ใช้เข็มฉีดยาไม่เหมาะสม รวมถึงไม่รู้เทคนิคการฉีด โดยเฉพาะแพทย์เถื่อน หมอกระเป๋า หรือพยาบาลที่ไม่มีประสบการณ์ อาจควบคุมปริมาณฟิลเลอร์และความลึกในการฉีดได้ไม่ดี

  • ผลข้างเคียงจากตัวยาฟิลเลอร์ที่ฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา  
    คือ อาการแพ้ฟิลเลอร์ โดยเกิดอาการแพ้ เป็นผื่นแดง คัน บวม 

วิธีแก้ไขผลข้างเคียงทั้ง 2 ประเภทนี้ สามารถทำได้โดยการฉีดสลายฟิลเลอร์ด้วยตัวยาไฮยาลูโรนิคเดส (Hyaluronidase) ในกรณีที่ใช้ฟิลเลอร์แท้เท่านั้น ส่วนในกรณีที่ใช้ฟิลเลอร์ปลอมต้องผ่าตัดหรือขูดออกเพื่อแก้ไขค่ะ 

  1. ผลข้างเคียงที่ต้องรีบพบแพทย์ด่วน หลังฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา เป็นผลข้างเคียงอันตราย หลังฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาที่พบได้น้อยมาก แต่หากเกิดขึ้น จำเป็นต้องรีบพบแพทย์ทันที คือ 

    อาการที่ต้องรีบพบแพทย์
  • ตาบอด: เกิดจากการอุดตันของหลอดเลือดแดงที่ไปเลี้ยงจอประสาทตา
  • มองเห็นภาพไม่ชัด: มัวลง เห็นภาพซ้อน ตาพร่ามัว
  • ปวดตา: ปวดตาอย่างรุนแรง
  • ตาแดง: แดง คัน ระคายเคือง
  • มีตุ่มหนอง: บริเวณใต้ตา
  • บวมมาก: บวมตึง บวมแดง ร้อน

สาเหตุของอาการเหล่านี้ ส่วนใหญ่มักเกิดมาจาก การฉีดฟิลเลอร์เข้าเส้นเลือด การติดเชื้อ หรือฟิลเลอร์อุดตันหลอดเลือด

การป้องกันไม่ให้เกิดผลข้างเคียงอันไม่พึงประสงค์ หลังฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา

วิธีป้องกันไม่ให้เกิดผลข้างเคียงที่ไม่ดี หลังฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาที่ดีที่สุด เพื่อความปลอดภัยและได้ผลลัพธ์ที่ดูเป็นธรรมชาติ ไม่ต้องเจอกับปัญหาหลังฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา คือควรเลือกคลินิกที่มีมาตรฐานและน่าเชื่อถือ โดยพิจารณาจากปัจจัยต่อไปนี้

เลือกคลินิกฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา ที่ไหนดี ?

  • คลินิกที่ได้มาตรฐานผ่านการรับรอง จากกระทรวงสาธารณสุข มีความน่าเชื่อถือและสามารถตรวจสอบได้
  • คลินิกที่มีแพทย์มากประสบการณ์ และชำนาญในการฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา ควรตรวจสอบชื่อ-นามสกุลแพทย์เพื่อยืนยันว่าเป็นแพทย์จริง ได้ที่เว็บไซต์ https://checkmd.tmc.or.th/ 
  • ใช้ฟิลเลอร์แท้ เท่านั้น ควรศึกษาวิธีการตรวจสอบฟิลเลอร์แท้จากแต่ละยี่ห้อ
  • รีวิวจากแหล่งที่เป็นกลาง เช่น Facebook Fanpage หรือรีวิวจากที่อื่นที่คลินิกไม่สามารถลบได้
  • คลินิกมีการติดตามผล และให้คำแนะนำวิธีการดูแลตัวเองหลังการฉีด มีช่องทางการติดต่อที่สะดวก เช่น เบอร์โทร, Line@, Facebook Messenger เพื่อง่ายต่อการสื่อสาร เมื่อมีข้อสงสัยหรือปัญหา

การพิจารณาการเลือกคลินิกก่อนตัดสินใจฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาที่เหมาะสม จะช่วยให้มั่นใจได้ว่าจะได้รับบริการที่ปลอดภัยและผลลัพธ์ที่ตอบโจทย์ความต้องการ ไม่พบกับปัญหาหรือผลข้างเคียงอันตรายที่เราไม่พึงประสงค์หลังฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาได้ค่ะ 

การดูแลตัวเองหลังการฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา  

หลังฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีและปลอดภัย ต้องอาศัยการดูแลตัวเองอย่างเหมาะสม ดังนี้

  • ข้อควรปฏิบัติ หลังฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา 
การดูแลตัวเองหลังการฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา

✅ พยายามอยู่แต่ในที่อากาศเย็น ๆ ไม่ควรประคบเย็น หรือประคบเย็นตามแพทย์สั่งเท่านั้น

✅ ควรนอนหัวสูงกว่าหน้าอกโดยการหนุนหมอนที่ศรีษะอย่างน้อย 2 ใบ ไม่ควรนอนตะแคง ควรหาหมอนข้างมากันไว้ทั้งซ้ายและขวา ใน 2-3 คืนแรกหลังทำเพื่อป้องกันการกดทับหน้า

✅ ช่วงหลังฉีด 3 วัน ให้ขยับใบหน้าเท่าที่จำเป็นเท่านั้น เพื่อป้องกันฟิลเลอร์เคลื่อนผิดตำแหน่ง

✅ ดื่มน้ำเยอะ ๆ เพื่อช่วยกระตุ้นคอลลาเจน

✅ ปกติหลังจากฉีดฟิลเลอร์ใต้ตตา 2-3 วัน จะปวดน้อยลงเรื่อย ๆ หากหลังจาก 2-3 วันยังปวดบริเวณที่ฉีดมากขึ้น มีอาการผิวหนังเปลี่ยนสี มีตุ่มหนอง ให้รีบติดต่อทางคลินิกเพื่อรับยาเพิ่ม

  • ข้อห้าม หลังฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา 
ข้อห้าม หลังฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา

❌ งดทาครีมบริเวณรอยเข้ม 1 คืน ล้างหน้า แต่งหน้าได้ตามปกติ

❌ งดนวดหน้า หรือ ทรีทเมนต์ เลเซอร์ต่าง ๆ 14 วัน

❌ งดทำกิจกรรมที่ทำให้หน้าแดงเยอะ ๆ 3 วัน เช่น 

  • ดื่มแอลกอฮอล์มาก ๆ กินของหมักดอง
  • เข้าซาวด์น่าหรือได้รับความร้อนเยอะ ๆ
  • ออกกำลังกายหนัก ๆ 

❌ หลีกเลี่ยงการกินอาหารดิบจากร้านที่ไม่สะอาด 

วิธีลดอาการบวม หลังฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา

วิธีลดอาการบวม หลังฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา ทำได้ไม่ยากเพียงประคบเย็น รับประทานยาลดบวม ดื่มน้ำเยอะ ๆ 

นอนยกศรีษะสูง และงดเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ตามคำแนะนำของแพทย์

วิธีลดบวมหลังฉีดฟิลเลอร์

หลังฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา อยู่ได้นานกี่เดือน ?

หลังจากฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา ผลลัพธ์ที่ได้ สามารถอยู่ได้นาน 6 – 24 เดือน ขึ้นอยู่กับยี่ห้อ / รุ่นของฟิลเลอร์ที่ใช้ ความไวในการสลายฟิลเลอร์ และวิธีการดูแลตัวเองของแต่ละบุคคลค่ะ

ซึ่งระยะเวลาที่อยู่ได้ของฟิลเลอร์ใต้ตาแต่ละยี่ห้อ ได้แก่

ฟิลเลอร์ใต้ตา ยี่ห้อ Juvederm 

  • Juvederm Voluma อยู่ได้นาน 18 เดือน
  • Juvederm Volite อยู่ได้นาน 8-12 เดือน
  • Juvederm Volux อยู่ได้นาน 18-24 เดือน

ฟิลเลอร์ใต้ตา ยี่ห้อ  Restylane 

  • Restylane  Defyne อยู่ได้นาน 18 เดือน
  • Restylane  Vital Light อยู่ได้นาน 6-12 เดือน
  • Restylane  Vital อยู่ได้นาน 12 เดือน
  • Restylane Perlane lyft อยู่ได้นาน 12 เดือน
  • Restylane Classic อยู่ได้นาน 12 เดือน

ฟิลเลอร์ใต้ตา ยี่ห้อ  Belotero 

  • Belotero Volume อยู่ได้นาน 18 เดือน
  • Belotero Revive อยู่ได้นาน 6-9 เดือน
  • Belotero Soft อยู่ได้นาน 6-12 เดือน

ฟิลเลอร์ใต้ตา ยี่ห้อ  Flore

  • Flore AQUA-S อยู่ได้นาน 6 เดือน

ทำไมการดูแลหลังฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาจึงสำคัญ ?

✔ ช่วยให้ฟิลเลอร์เข้าที่เร็วขึ้น การปฏิบัติตามคำแนะนำของแพทย์อย่างเคร่งครัด ช่วยให้ฟิลเลอร์กระจายตัวและเข้าที่ได้เร็วขึ้น ส่งผลให้ได้ผลลัพธ์ที่สวยงาม ดูเป็นธรรมชาติ

✔  ช่วยลดอาการบวมและรอยช้ำ การประคบเย็น พักผ่อนให้เพียงพอ และหลีกเลี่ยงกิจกรรมที่เพิ่มแรงดันในใบหน้า จะช่วยลดอาการบวมและรอยช้ำหลังการฉีด

✔  ช่วยป้องกันผลข้างเคียง การดูแลตัวเองอย่างถูกต้อง ช่วยลดความเสี่ยงต่อผลข้างเคียง เช่น การติดเชื้อ ฟิลเลอร์ไหล หรือฟิลเลอร์เป็นก้อน

✔  ช่วยให้ผลลัพธ์อยู่ได้นาน การดูแลตัวเองอย่างดี จะช่วยให้ฟิลเลอร์ใต้ตาอยู่ได้นานขึ้น โดยไม่ต้องเติมบ่อย

สรุป 

หลังฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา อาจพบผลข้างเคียงเพียงเล็กน้อย เช่น อาการบวมและเป็นรอยช้ำ ที่จะหายเป็นปกติภายในไม่กี่วัน การดูแลตัวเองหลังฉีดฟิลเลอร์ใต้ตาที่ถูกต้อง เช่น หลีกเลี่ยงการแตะบริเวณที่ฉีด ดื่มน้ำเยอะ ๆ และอยู่ในที่อากาศเย็น ๆ จะช่วยเร่งการฟื้นตัว ลดผลข้างเคียง และช่วยให้ผลลัพธ์อยู่ได้นานขึ้นได้ รวมถึงควรติดตามผลกับแพทย์เป็นประจำหลังฉีด เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีและมีความปลอดภัยค่ะ