หลังฉีดฟิลเลอร์

หลังฉีดฟิลเลอร์ต้องรู้! 8 วิธีดูแลตัวเองที่ควรทำ ห้ามอะไรบ้าง ? แต่งหน้าได้ไหม ?

หลังฉีดฟิลเลอร์

การดูแลตัวเองหลังฉีดฟิลเลอร์มีความสำคัญมากค่ะ เพราะจะช่วยลดโอกาสเกิดผลข้างเคียงไม่พึ่งประสงค์ ช่วยให้ยุบบวมเร็ว และทำให้ฟิลเลอร์ที่ฉีดเซตตัวสวยอีกด้วย

สำหรับใครที่เพิ่งไปฉีดฟิลเลอร์มาใหม่ ขอให้มามุงตรงนี้ค่ะ บทความนี้ได้รวบรวม 8 วิธีการดูแลตัวเองหลังฉีดฟิลเลอร์ที่ควรรู้มาฝากกัน ถ้าทำตามนี้ รับรองว่าผลลัพธ์ปังอย่างแน่นอนค่ะ 


1. หลีกเลี่ยงการสัมผัสแรง ๆ หรือกดทับในจุดที่ฉีดฟิลเลอร์

หลังฉีดฟิลเลอร์คาง-ห้ามนั่งเท้าคาง

อาการที่จะเกิดขึ้นเป็นปกติหลังฉีดฟิลเลอร์ คือ บวมแดง เขียวช้ำ หรือรู้สึกคันในจุดที่ฉีดค่ะ ห้ามทุกคนสัมผัสแรง ๆ เด็ดขาด เช่น แคะ แกะ เกา กด หรือปั้นทรงฟิลเลอร์เอง เพราะจะส่งผลกระทบต่อฟิลเลอร์ และทำให้ฟิลเลอร์เสียทรงได้ รวมถึงควรหลีกเลี่ยงการกดทับในจุดดังกล่าวอีกด้วย โดยข้อควรระวังหลังฉีดฟิลเลอร์ในแต่ละจุด มีดังนี้

  • หลังฉีดฟิลเลอร์หน้าผาก ไม่นอนคว่ำหน้า หรือเอามือก่ายหน้าผากค่ะ รวมถึงระวังการรัดหรือบีบอัดบริเวณหน้าผาก เช่น การสวมหมวกกันน็อกแน่น ๆ หรือการบีบสิวบนหน้าผาก
  • หลังฉีดฟิลเลอร์ขมับ ควรหลีกเลี่ยงการนอนตะแคงข้างค่ะ โดยเฉพาะคนที่นอนดิ้น เพราะอาจไปกดทับบริเวณขมับ จนทำให้รู้สึกเจ็บ หรือปวดศีรษะตามมาได้ แนะนำให้นอนหงาย และนำหมอนข้าง 2 อันมากันไว้ที่ด้านซ้ายและขวาของลำตัว ในช่วง 2-3 คืนแรก
  • หลังฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา ห้ามขยี้ตาค่ะ เพราะอาจทำให้ฟิลเลอร์เคลื่อนที่ และยังเพิ่มความเสี่ยงต่อการติดเชื้ออีกด้วย หากมือของเราไม่สะอาด 
  • หลังฉีดฟิลเลอร์ร่องแก้ม นอกจากควรหลีกเลี่ยงการสัมผัสแรง ๆ แล้ว แนะนำว่าอย่าขยับใบหน้าเยอะค่ะ โดยเฉพาะในช่วง 3 วันแรก เพราะฟิลเลอร์ร่องแก้มอาจเคลื่อนที่ได้ รวมถึงควรงดกิจกรรมที่ทำให้หน้าแดงใน 48 ชั่วโมงอีกด้วย
  • หลังฉีดฟิลเลอร์ปาก เนื่องจากริมฝีปากเป็นจุดที่ขยับบ่อย และมักจะสัมผัสกับความร้อนโดยตรง เลยอาจมีข้อควรระวังหลังฉีดฟิลเลอร์มากกว่าจุดอื่น ๆ ค่ะ เช่น หลีกเลี่ยงอาหารร้อน ๆ และรสเผ็ดจัด งดการใช้หลอดดูดน้ำ หรือสูบบุหรี่ ไม่เม้มปาก หรือจูบกับแฟนค่ะ เพราะอาจกระทบต่อการเซตตัวของฟิลเลอร์ หรือทำให้เกิดการอักเสบได้

นอกจากนี้ห้ามดึงหรือลอกหนังริมฝีปากเด็ดขาด เพราะจะทำให้เกิดบาดแผล ทำให้ริมฝีปากสามารถกักเก็บน้ำและความชุ่มชื้นได้น้อยลง

  • หลังฉีดฟิลเลอร์คาง หลีกเลี่ยงพฤติกรรมที่จะทำให้เกิดการกดทับบริเวณคาง เช่น การนั่งเท้าคาง การใส่หมวกกันน็อกที่รัดแน่น ๆ หรือการนอนคว่ำ

2. กินยาตามแพทย์สั่ง

หลังฉีดฟิลเลอร์-กินยาตามแพทย์สั่ง

สำหรับใครที่ก่อนฉีดฟิลเลอร์ยังไม่ได้กินยาฆ่าเชื้อ แนะนำให้กินยาทันทีหลังฉีดฟิลเลอร์เสร็จค่ะ นอกจากนี้ควรกินยาตามที่คุณหมอสั่งให้ครบถ้วนอีกด้วย เช่น ยาลดบวม ยาแก้อักเสบ หรือยาแก้ปวด

โดยทั่วไปยาชาที่คุณหมอฉีดไว้จะหมดฤทธิ์ใน 3 ชั่วโมงค่ะ ทำให้มีอาการปวดระบมตามมาได้เป็นปกติ ทุกคนสามารถกินยาแก้ปวดพาราเซตามอลในทุก ๆ 4 ชั่วโมงได้เลยค่ะ แต่ถ้ายังรู้สึกปวดมากอยู่ สามารถกินยาแก้ปวดในกลุ่มอื่นเสริมได้ เช่น Ibruprofen, Arcoxia, หรือ Diclofenac ทั้งนี้ใครที่ไม่เคยกินยากลุ่มนี้ แนะนำให้ปรึกษากับแพทย์หรือเภสัชกร โดยแจ้งประวัติการแพ้ยาของตัวเองด้วยค่ะ


3. ดื่มน้ำให้เพียงพอหลังฉีดฟิลเลอร์

หลังฉีดฟิลเลอร์ควรดื่มน้ำอย่างสม่ำเสมอ และให้เพียงพอต่อความต้องการของร่างกายค่ะ โดยควรดื่มน้ำวันละ 1.5-2 ลิตร ซึ่งจะช่วยให้ยุบบวมเร็ว ฟิลเลอร์ฟูสวย และยังยืดอายุของฟิลเลอร์ให้อยู่ได้นานขึ้น เพราะฟิลเลอร์เป็นสารที่มีคุณสมบัติอุ้มน้ำ และจะสลายตัวรูปแบบ Isovolumetric Degradation คือ น้ำจะเข้าไปแทนที่โมเลกุลของฟิลเลอร์ที่สลายไป ทำให้ปริมาตรที่เหลืออยู่ในร่างกายจะเท่ากับปริมาณน้ำที่เราดื่มเข้าไปค่ะ


4. งดอาหารและเครื่องดื่มบางชนิดหลังฉีดฟิลเลอร์

หลังฉีดฟิลเลอร์-หลีกเลี่ยงอาหารร้อน

หลังฉีดฟิลเลอร์ควรหลีกเลี่ยงอาหารและเครื่องดื่มเหล่านี้ประมาณ 14 วัน หรืออย่างน้อย 2 วันค่ะ เพราะอาจก่อให้เกิดผลข้างเคียงไม่พึ่งประสงค์ หรือส่งผลต่ออายุของฟิลเลอร์ได้

  • อาหารรสจัด เช่น หวานจัด เค็มจัด หรือเผ็ดจัด เพราะอาหารรสจัดมักมีโซเดียมสูง ร่างกายจึงดูดน้ำค่อนข้างมาก และทำให้หน้าบวมได้ค่ะ ส่วนน้ำตาลสามารถกระตุ้นการอักเสบได้ ทำให้รอยเข็มหายช้า
  • อาหารร้อน เช่น ชาร้อน กาแฟร้อน หมูกระทะ หมาล่า และชาบู จะทำให้ใบหน้าอยู่ใกล้กับความร้อนมากค่ะ จึงอาจส่งผลต่อการเซตตัวและอายุของฟิลเลอร์ได้ นอกจากนี้ความร้อนยังทำให้ร่างกายขับเหงื่อมากขึ้น ซึ่งสามารถก่อให้เกิดการระคายเคืองในบริเวณรอยเข็มได้อีกด้วย

ในเคสของฟิลเลอร์ปาก หลังฉีดฟิลเลอร์ ริมฝีปากจะไวต่อความรู้สึกมากกว่าปกติค่ะ ความร้อนจากอาหารจึงอาจทำให้เกิดอาการบวมแดง ผื่น หรือการอักเสบตามมาได้  

  • เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ และสูบบุหรี่ เช่น ไวน์ โซจู ค็อกเทล วิสกี้ และยาดอง จะทำให้หลอดเลือดขยายตัว อาการบวมจะหายช้า นอกจากนี้การดื่มมาก ๆ อาจทำให้เผลอไปสัมผัสแรง ๆ ในจุดที่ฉีด หรือเกิดอุบัติเหตุ ที่ทำให้ฟิลเลอร์เสียทรงได้ ดังนั้นสายปาร์ตี้ทั้งหลายควรงดเครื่องดื่มเหล่านี้ประมาณ 3-14 วันนะคะ
  • อาหารหมักดอง หรือสุก ๆ ดิบ ๆ เช่น ปลาร้า มะม่วงดอง หน่อไม้ดอง ในบางเมนูจะมีสารที่ทำให้หลอดเลือดขยายตัวค่ะ ทำให้ยุบบวมช้า นอกจากนี้ยังมักเป็นอาหารที่มีความเสี่ยงต่อการปนเปื้อนของพยาธิหรือเชื้อโรค ถ้ากรรมวิธีไม่ได้สะอาด 100%

5. อยู่ในสถานที่ที่อากาศเย็น

หลังฉีดฟิลเลอร์จะมีอาการบวมค่ะ แนะนำให้อยู่ในสถานที่ที่อากาศเย็นเป็นหลัก โดยเปิดเครื่องปรับอากาศไว้ที่อุณหภูมิ 18-23 °C ได้เลย ซึ่งจะช่วยให้ยุบบวมเร็วขึ้น ในกรณีที่นอนพักผ่อน ควรนอนหนุนหมอนอย่างน้อย 2 ใบ เพื่อให้ส่วนหัวอยู่สูงกว่าหน้าอก และลดการรั่วไหลของสารน้ำออกจากเส้นเลือด


6. หลีกเลี่ยงความร้อนทุกชนิด

หลังฉีดฟิลเลอร์-หลีกเลี่ยงความร้อนทุกชนิด

(Alt: หลังฉีดฟิลเลอร์ หลีกเลี่ยงความร้อนทุกชนิด)

  • พื้นที่กลางแจ้ง หลังฉีดฟิลเลอร์ควรหลีกเลี่ยงพื้นที่ที่มีแสงแดดจัด อย่างน้อย 48 ชั่วโมง เพราะความร้อนจะเพิ่มการไหลเวียนของเลือดบริเวณใบหน้า และทำให้อาการบวมเพิ่มมากขึ้นค่ะ นอกจากนี้แสงแดดยังอาจส่งผลให้ผิวเกิดการระคายเคือง หรือเกิดรอยแดง ทั้งบริเวณใบหน้าและรอยเข็มได้อีกด้วย
  • พื้นที่อากาศร้อน เช่น ร้านชาบู ห้องซาวน่า หรือร้านหมูกระทะ อย่างน้อย 48 ชั่วโมง นอกจากความร้อนจะเพิ่มการไหลเวียนของเลือด ทำให้อาการบวมไม่ยุบแล้ว ถ้าเหงื่อออกมาก ๆ ยังอาจทำให้เกิดการระคายเคืองที่รอยเข็มได้อีกด้วยค่ะ
  • ล้างหน้าด้วยน้ำร้อน หลังฉีดฟิลเลอร์ประมาณ 3 ชั่วโมง สามารถล้างหน้าได้ค่ะ แต่ควรใช้น้ำอุณหภูมิปกติ เพราะถ้าน้ำร้อนเกินไป จะส่งผลให้เกิดผิวแห้ง หรือผิวขาดความชุ่มชื้นได้ รวมถึงควรใช้สบู่อ่อน ๆ และระวังไม่ให้บริเวณรูเข็มโดนน้ำนานเกิน 15 นาที 
  • ทรีตเมนท์ หรือเลเซอร์ร้อนที่ลงผิวชั้นลึก เช่น RF Thermage ควรงดอย่างน้อย 1 เดือนหลังฉีดฟิลเลอร์ เพราะอาจส่งผลต่ออายุของฟิลเลอร์ได้ สำหรับใครที่ต้องการทำหัตถการเหล่านี้ แนะนำให้ปรึกษากับคุณหมอก่อนค่ะ

7. งดพฤติกรรมที่ทำให้เลือดสูบฉีด

หลังฉีดฟิลเลอร์-หลีกเลี่ยงการออกกำลังกายหนัก

หลีกเลี่ยงพฤติกรรมที่เพิ่มการสูบฉีดของเลือดค่ะ เช่น การออกกำลังกายหนัก ๆ หรือการดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ เพราะจะทำให้ยุบบวมช้า และเหงื่ออาจทำให้เกิดการระคายเคืองได้ นอกจากนี้หากออกกำลังกายไม่ระวังจนเกิดอุบัติเหตุ ยังอาจส่งผลกระทบต่อการเซตตัวของฟิลเลอร์ได้อีกด้วย


8. หลีกเลี่ยงการแต่งหน้า

สาว ๆ ที่ไม่ชอบให้ใครเห็นหน้าสด อาจจะสงสัยว่า หลังฉีดฟิลเลอร์ แต่งหน้าได้ไหม ? 

ขอชี้แจงให้ฟังว่า หลังฉีดฟิลเลอร์ 1 ชั่วโมง เราสามารถแกะพลาสเตอร์ออกได้แล้วค่ะ สำหรับใครที่อยากแต่งหน้าก็สามารถทำได้ แต่แนะนำให้เว้นบริเวณรูเข็มที่ฉีดไว้ก่อน และควรแต่งหน้าอย่างเบามือค่ะ เพื่อไม่ให้รู้สึกเจ็บ หรือกระทบกระเทือนกับฟิลเลอร์ที่ฉีดเข้าไป

ในกรณีที่ฉีดฟิลเลอร์ปากมา หลังฉีดฟิลเลอร์แนะนำให้งดทาลิป 1 คืนค่ะ หลังจากนั้นก็สามารถทาลิปได้ตามปกติ แต่ขอให้เว้นบริเวณรอยเข็มไว้


สรุป

หลังฉีดฟิลเลอร์ ทุกคนสามารถนำวิธีการดูแลตัวเองที่บทความนี้นำมาฝากไปใช้ได้เลยค่ะ รับรองว่าจะช่วยให้ยุบบวมเร็ว และฟิลเลอร์เซตตัวสวยอย่างแน่นอน

สำหรับใครที่อยากให้หลังฉีดฟิลเลอร์ ผลลัพธ์ปัง ยุบบวมแล้วดูสวยทันที แนะนำให้เลือกคลินิกความงามที่น่าเชื่อถือ ฉีดฟิลเลอร์กับคุณหมอมากประสบการณ์ และเช็กฟิลเลอร์ของแท้ทุกครั้งค่ะ