หลังฉีดฟิลเลอร์ต้องรู้! 8 วิธีดูแลตัวเองที่ควรทำ ห้ามอะไรบ้าง ? แต่งหน้าได้ไหม ?
หลังฉีดฟิลเลอร์
การดูแลตัวเองหลังฉีดฟิลเลอร์เป็นสิ่งสำคัญที่ช่วยให้ผลลัพธ์คงอยู่สวยงามและยาวนานค่ะ หลังจากฉีด Filler แล้ว ควรให้ความสำคัญกับการปฏิบัติตัวอย่างถูกต้อง ไม่ว่าจะเป็นข้อห้าม ข้อควรระวัง หรือวิธีการดูแลเพื่อหลีกเลี่ยงผลข้างเคียงที่อาจเกิดขึ้น
เพื่อให้คุณเข้าใจถึงวิธีการดูแลตัวเองที่ถูกต้อง Gangdara ได้รวบรวมข้อแนะนำที่สำคัญในส่วนของข้อปฏิบัติหลังฉีดฟิลเลอร์มาไว้ที่นี่แล้วค่ะ
สารบัญ หลังฉีดฟิลเลอร์
ข้อปฏิบัติหลังฉีด Filler
การทำตามข้อปฏิบัติหลังฉีด Filler จะช่วยให้ผลลัพธ์ออกมาสวยงาม ดูเป็นธรรมชาติ ลดโอกาสเกิดผลข้างเคียง และช่วยให้ฟิลเลอร์เข้าที่ได้เร็วขึ้น เรามีคำแนะนำการดูแลตัวเองในช่วงเวลาต่าง ๆ ตั้งแต่หลังฉีดฟิลเลอร์ทันที ไปจนถึงระยะยาว มาดูกันเลยค่ะ
ข้อควรปฎิบัติหลังจากฉีดฟิลเลอร์ทันที
หลังฉีดฟิลเลอร์เสร็จทันที อาจมีอาการบวมแดง เขียวช้ำ หรือคันเล็กน้อยบริเวณที่ฉีดได้ ถือเป็นเรื่องปกติค่ะ ควรหลีกเลี่ยงการสัมผัส กดนวด หรือเกาบริเวณดังกล่าว อาการเหล่านี้จะค่อย ๆ ดีขึ้นภายใน 2-3 วัน แต่หากยังไม่ดีขึ้นหรือมีอาการรุนแรงหลัง 3 วัน ควรติดต่อคลินิกทันทีค่ะ
หลังฉีดฟิลเลอร์ครบ 1 ชั่วโมง สามารถแกะพลาสเตอร์ที่ปิดรูเข็มออกได้ หากจะแต่งหน้าควรเลี่ยงบริเวณดังกล่าว สำหรับผู้ที่ยังไม่ได้ทานยาฆ่าเชื้อ ควรรับประทานทันทีหลังฉีด พร้อมทานยาแก้ปวดและลดบวมตามที่แพทย์สั่งค่ะ
ข้อควรปฎิบัติหลังฉีดฟิลเลอร์ 3 – 48 ชม.
- หลังฉีดฟิลเลอร์ 3 ชั่วโมง สามารถล้างหน้าด้วยสบู่อ่อน ๆ และให้รอยเข็มโดนน้ำได้ไม่เกิน 15 นาที หากต้องการประคบเย็น ควรปรึกษาแพทย์ก่อน เพราะการประคบเองหรือประคบผิดวิธีอาจทำให้ฟิลเลอร์เคลื่อนตัวได้ ควรประคบเย็นตามคำแนะนำของแพทย์ในบางกรณีเท่านั้นค่ะ
- หลังจากผ่านไป 6 ชั่วโมง ยาชาจะเริ่มหมดฤทธิ์ หากยังมีอาการบวมอยู่ สามารถประคบเย็นเบา ๆ ได้ แต่ควรหลีกเลี่ยงการกดแรงเพื่อป้องกันการเคลื่อนของฟิลเลอร์ค่ะ
- หลังจากฉีดฟิลเลอร์ 24 ชั่วโมง อาจมีอาการบวมเพิ่มขึ้นได้ ซึ่งบางคนอาจเข้าใจว่าฟิลเลอร์ฟูขึ้น แต่จริง ๆ แล้วเป็นอาการบวมที่จะยุบลงภายใน 7-14 วัน ผลลัพธ์ฟิลเลอร์ที่แท้จริงควรดูหลัง 14 วันค่ะ ช่วงนี้สามารถทาครีมและล้างหน้าได้ปกติ
- หลังฉีดฟิลเลอร์ 48 ชั่วโมง ควรอยู่ในที่อากาศเย็นและหลีกเลี่ยงความร้อน เช่น การออกกำลังกายหนัก ซาวน่า หรือกิจกรรมที่ทำให้หน้าแดง รวมถึงงดดื่มแอลกอฮอล์เพื่อลดอาการบวมค่ะ
ข้อควรปฎิบัติหลังฉีดฟิลเลอร์ 3 – 14 วัน
- หลังฉีดฟิลเลอร์ 3 วัน อาการบวมแดงหรือช้ำจะเริ่มบรรเทาลงค่ะ หากอาการรุนแรงขึ้นหรือไม่ดีขึ้น ควรติดต่อคลินิกเพื่อขอรับยารักษาเพิ่มเติม ช่วงนี้สามารถขยับใบหน้าได้ตามปกติ แต่ควรหลีกเลี่ยงการขยับใบหน้ามากเกินไป เพราะอาจทำให้ฟิลเลอร์เคลื่อนได้ ฟิลเลอร์จะเริ่มเข้าที่ประมาณ 90% แต่ยังไม่ควรกดหรือนวดแรง ๆ ค่ะ
- หลังฉีดฟิลเลอร์ 7-10 วัน รอยเขียวช้ำหรือรอยบวมที่เกิดขึ้นอาจยังมีอยู่เล็กน้อย แต่จะค่อย ๆ จางลงภายใน 14 วัน ช่วงนี้ไม่ควรประคบร้อน และบางเคสอาจคลำเจอฟิลเลอร์เป็นก้อนได้ซึ่งเป็นเรื่องปกติ อาการจะค่อย ๆ นิ่มลงภายใน 2-3 สัปดาห์ค่ะ
- หลังฉีดฟิลเลอร์ 14 วัน อาการบวมจะหายไปเกือบทั้งหมด ฟิลเลอร์จะเริ่มนิ่มลงและกลืนไปกับผิว ยกเว้นฟิลเลอร์ที่ฉีดในชั้นลึกเพื่อยกกระชับใบหน้า อาจรู้สึกถึงเนื้อฟิลเลอร์ได้เล็กน้อยแต่จะมองไม่เห็นจากภายนอกค่ะ หลังจากนี้สามารถออกกำลังกายและทานอาหารได้ตามปกติ แต่ควรหลีกเลี่ยงกิจกรรมที่ทำให้ผิวสัมผัสกับความร้อนค่ะ
การดูแลตัวเองหลังการฉีดฟิลเลอร์ 1 เดือน
- ภายใน 1 เดือนหลังฉีดฟิลเลอร์ ควรงดทำทรีตเมนต์ที่ใช้ความร้อนและลงลึกถึงชั้นผิว เช่น RF หรือ Thermage เพราะอาจกระทบต่อฟิลเลอร์ ควรรออย่างน้อย 1 เดือนก่อนกลับมาทำทรีตเมนต์เหล่านี้ค่ะ
- แนะนำดื่มน้ำให้เพียงพอวันละ 1.5-2 ลิตร เป็นปัจจัยสำคัญที่ช่วยให้ฟิลเลอร์คงความอิ่มฟูและอยู่ได้นานขึ้น เพราะโมเลกุลของน้ำจะเข้าไปทดแทนฟิลเลอร์ที่ค่อย ๆ สลาย ทำให้ปริมาตรยังดูเต็ม การดื่มน้ำมาก ๆ จะช่วยให้ฟิลเลอร์ดูสวยและคงผลลัพธ์ที่เป็นธรรมชาติค่ะ
ข้อควรระวัง และแนวทางปฏิบัติ หลังฉีดฟิลเลอร์แต่ละตำแหน่ง
หลังฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา
อาการหลังฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา
หลังฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา แพทย์จะติดพลาสเตอร์บริเวณรอยเข็ม โดยสามารถแกะออกได้หลังครบ 1 ชั่วโมง อาจมีอาการบวมแดง เขียวช้ำ หรือคันเล็กน้อย ซึ่งเป็นอาการปกติค่ะ จะค่อย ๆ ดีขึ้นในช่วง 2-3 วัน
ข้อปฏิบัติหลังฉีด Filler ใต้ตา
ควรนอนหนุนหมอนสูงกว่าระดับหน้าอกโดยใช้หมอน 2 ใบ และหลีกเลี่ยงการนอนตะแคง ให้ใช้หมอนข้างกันไว้ทั้งสองข้างใน 2-3 คืนแรกเพื่อป้องกันการกดทับใบหน้า และทานยาตามที่แพทย์สั่งอย่างต่อเนื่องจนหมด เพื่อลดบวมและป้องกันการติดเชื้อค่ะ
ข้อควรระวังหลังฉีดฟิลเลอร์ใต้ตา
- ห้ามขยี้ตา เกา กด หรือกดนวดบริเวณที่ฉีด
- ระวังการสวมแว่นตาที่กดทับใต้ตา เพราะอาจทำให้ฟิลเลอร์เคลื่อนหรือเกิดการอักเสบ
- หากอาการบวมแดงไม่ดีขึ้นภายใน 3 วัน ควรกลับมาที่คลินิกเพื่อตรวจเพิ่มเติมและขอรับยารักษาค่ะ
หลังฉีดฟิลเลอร์คาง
อาการหลังฉีดฟิลเลอร์คาง
ภายใน 24 ชั่วโมงหลังฉีดฟิลเลอร์คาง อาจมีอาการบวมเพิ่มขึ้นเล็กน้อยซึ่งเป็นเรื่องปกติค่ะ อาการบวมนี้จะค่อย ๆ ลดลงและหายไปเองภายใน 4-5 วัน โดยจะเห็นผลลัพธ์ที่ชัดเจนและเข้าที่ประมาณ 2-3 สัปดาห์ หลังจากนี้ควรดูแลตัวเองอย่างดีเพื่อให้ผลลัพธ์ออกมาสวยงามค่ะ
ข้อปฏิบัติหลังฉีด Filler คาง
แนะนำให้ดื่มน้ำสะอาดมาก ๆ เพื่อช่วยให้ไฮยาลูรอนในฟิลเลอร์อุ้มน้ำและฟูตัวได้ดี ควรดูแลผิวให้ชุ่มชื้น และหลีกเลี่ยงพฤติกรรมที่อาจกระทบกระเทือนบริเวณคางในช่วงแรกค่ะ
ข้อควรระวังหลังฉีดฟิลเลอร์คาง
- ห้ามนวด กด หรือปั้นทรงคางเอง โดยเฉพาะในช่วง 2 สัปดาห์แรก เพราะอาจทำให้คางเสียทรง
- หลีกเลี่ยงการเท้าคางและการใส่หมวกกันน็อคที่รัดแน่น
- งดนอนคว่ำเพื่อป้องกันการกดทับบริเวณที่ฉีด
หลังฉีดฟิลเลอร์ปาก
อาการหลังฉีดฟิลเลอร์ปาก
หลังฉีดฟิลเลอร์ปาก อาจมีอาการบวม ปากเจ่อ ผื่น หรือจุดแดงบริเวณรอยเข็ม ซึ่งเป็นเรื่องปกติและจะค่อย ๆ ดีขึ้นภายใน 2-3 วัน หากรู้สึกปวด สามารถทานยาแก้ปวดตามอาการได้ค่ะ
ข้อปฏิบัติหลังฉีด Filler ปาก
ในช่วง 12 ชั่วโมงแรก งดใช้หลอดดูดน้ำ งดทาลิปสติก และงดสูบบุหรี่เพื่อป้องกันการระคายเคืองบริเวณที่ฉีด ควรดื่มน้ำมาก ๆ เพื่อเพิ่มความชุ่มชื้นให้ฟิลเลอร์ช่วยให้ปากดูอิ่มฟูและอยู่ได้นานขึ้นค่ะ รวมถึงควรเลือกทานอาหารและเครื่องดื่มที่มีอุณหภูมิปกติ หลีกเลี่ยงอาหารร้อนที่อาจทำให้ปากบวม
ข้อควรระวังหลังฉีดฟิลเลอร์ปาก
- หลีกเลี่ยงการสัมผัสปากบ่อย ๆ เช่น การจับ บีบ นวด
- ไม่ควรดึงหรือลอกหนังริมฝีปาก เพราะอาจทำลายความชุ่มชื้นบนผิว
- งดดื่มแอลกอฮอล์ และเครื่องดื่มร้อน ๆ ในช่วงแรก
- ไม่ควรทานอาหารที่มีรสเผ็ดจัด
หลังฉีดฟิลเลอร์ร่องแก้ม
อาการหลังฉีดฟิลเลอร์ร่องแก้ม
หลังฉีดฟิลเลอร์ร่องแก้ม อาจมีอาการบวมแดง เขียวช้ำ หรือคันเล็กน้อยบริเวณที่ฉีด ซึ่งเป็นอาการปกติและจะค่อย ๆ ดีขึ้นภายใน 2-3 วันค่ะ
ข้อปฏิบัติหลังฉีด Filler ร่องแก้ม
ควรพักในที่อากาศเย็น และหลีกเลี่ยงกิจกรรมที่ทำให้หน้าแดง เช่น การออกกำลังกายหนักหรือตากแดด อย่างน้อย 48 ชั่วโมง นอกจากนี้ควรดื่มน้ำให้เพียงพอวันละ 1.5-2 ลิตร เพื่อช่วยให้ฟิลเลอร์คงความชุ่มชื้นและอยู่ได้นานขึ้น หากต้องการประคบเย็น ควรทำตามคำแนะนำของแพทย์โดยไม่กดแรงเกินไปค่ะ
ข้อควรระวังหลังฉีดฟิลเลอร์ร่องแก้ม
- หลีกเลี่ยงการบีบ กด แกะ เกา บริเวณร่องแก้ม
- หลีกเลี่ยงการขยับใบหน้ามากเกินไปในช่วง 3 วันแรก เพราะอาจทำให้ฟิลเลอร์เคลื่อนได้
- งดกิจกรรมที่ทำให้หน้าแดง เช่น การออกกำลังกายหนัก ๆ และการตากแดด
หลังฉีดฟิลเลอร์หน้าผาก
อาการหลังฉีดฟิลเลอร์หน้าผาก
หลังฉีดฟิลเลอร์หน้าผาก บางเคสอาจมีอาการปวดศีรษะเล็กน้อย ซึ่งจะค่อย ๆ หายไปเองโดยไม่ต้องพักฟื้น สามารถใช้ชีวิตได้ตามปกติทันทีค่ะ
ข้อปฏิบัติหลังฉีด Filler หน้าผาก
หากรู้สึกปวดมาก สามารถทานยาแก้ปวดได้ และแนะนำให้อยู่ในที่เย็น ๆ ระหว่างนี้สามารถใช้ชีวิตประจำวันได้ตามปกติ เช่น เดินเล่นหรือช้อปปิ้งได้เลยค่ะ
ข้อควรระวังหลังฉีดฟิลเลอร์หน้าผาก
- ห้ามจับ กดนวดบริเวณหน้าผาก เพราะอาจทำให้ฟิลเลอร์เคลื่อนและส่งผลต่อผลลัพธ์ที่ได้
- ห้ามนอนราบหลังฉีดฟิลเลอร์หน้าผาก 3-4 ชั่วโมง
- หลีกเลี่ยงการนอนคว่ำ หรือนอนในท่าที่มีแรงกดทับบริเวณหน้าผาก
- หลีกเลี่ยงความร้อนทุกชนิด
- หลีกเลี่ยงการถูใบหน้าแรง ๆ หรือบีบสิวบริเวณหน้าผาก
หลังฉีดฟิลเลอร์ขมับ
อาการหลังฉีดฟิลเลอร์ขมับ
หลังฉีดฟิลเลอร์ขมับ บางคนอาจรู้สึกปวดศีรษะเล็กน้อย เนื่องจากบริเวณขมับเป็นจุดรวมเส้นประสาทจึงไวต่อความรู้สึกได้ง่าย อาการปวดนี้มักจะค่อย ๆ บรรเทาลงเองภายใน 1-2 วัน หากปวดมาก สามารถรับประทานยาแก้ปวดตามที่แพทย์แนะนำเพื่อช่วยบรรเทาอาการได้ค่ะ
ข้อปฏิบัติหลังฉีด Filler ขมับ
ควรนอนหงายในช่วง 2-3 คืนแรกเพื่อป้องกันการกดทับ ช่วยให้ฟิลเลอร์คงรูปและเข้าที่ได้ดีขึ้นค่ะ ไม่ใส่แว่นหรือหมวกที่รัดแน่นบริเวณขมับเพื่อลดการกดทับ และควรดื่มน้ำมาก ๆ รวมถึงพักผ่อนให้เพียงพอเพื่อให้ฟิลเลอร์คงความชุ่มชื้นและคงผลลัพธ์ได้ยาวนาน
ข้อควรระวังหลังฉีดฟิลเลอร์ขมับ
- ห้ามกดหรือนวดบริเวณขมับในช่วงแรก เพราะอาจทำให้ฟิลเลอร์เคลื่อนหรือเกิดอาการปวดศีรษะเพิ่มขึ้น
- หลีกเลี่ยงการนอนตะแคงเพื่อป้องกันการกดทับขมับ ซึ่งแม้ฟิลเลอร์จะไม่เสียทรงง่าย แต่การนอนหงายจะช่วยลดอาการเจ็บ และไม่กระทบกระเทือนบริเวณที่ฉีด
วิธีดูแลตัวเองเพิ่มเติมหลังฉีดฟิลเลอร์
หลังจากที่ฉีดฟิลเลอร์เสร็จแล้ว การดูแลตัวเองให้ถูกวิธีถือเป็นขั้นตอนสำคัญเพื่อให้ผลลัพธ์ที่ได้ออกมาสวยงามและยาวนานที่สุดค่ะ ต่อไปนี้คือคำแนะนำในการดูแลตัวเองเพิ่มเติม เพื่อช่วยบำรุงผิวและลดอาการข้างเคียงหลังการฉีดฟิลเลอร์
- ดื่มน้ำให้เพียงพอ การดื่มน้ำในปริมาณที่เหมาะสมวันละ 1.5-2 ลิตร จะช่วยให้ไฮยาลูรอนในฟิลเลอร์คงความชุ่มชื้นและเข้ากับผิวได้ดี ทำให้ผิวดูอิ่มฟูยิ่งขึ้นค่ะ
- รับประทานยาตามที่แพทย์สั่ง แพทย์อาจจ่ายยาเพื่อลดอาการบวมและป้องกันการติดเชื้อ ควรรับประทานยาให้ครบถ้วนตามคำแนะนำค่ะ
- นอนยกหัวให้สูง ใน 2-3 คืนแรกหลังฉีดฟิลเลอร์ ควรหนุนหมอนให้ศีรษะสูงกว่าระดับหน้าอก โดยใช้หมอนอย่างน้อย 2 ใบ และควรนอนหงาย
- พักผ่อนให้เพียงพอ เพื่อให้ร่างกายได้ซ่อมแซมและฟื้นฟูบริเวณที่ฉีด ควรพักผ่อนให้เพียงพอในช่วง 1-2 วันหลังการฉีดค่ะ
- ทาครีมกันแดดเมื่อต้องเจอแดด หากจำเป็นต้องออกไปข้างนอกและเจอกับแสงแดด ควรทาครีมกันแดดที่มี SPF สูง ๆ เพื่อปกป้องผิวจากรังสียูวี ช่วยให้ผิวไม่เกิดการระคายเคืองและยืดอายุฟิลเลอร์ในผิวได้นานขึ้น
ข้อห้ามหลังฉีดฟิลเลอร์ มีอะไรบ้าง ?
- หลีกเลี่ยงการจับหรือสัมผัสบริเวณที่ฉีด เพื่อป้องกันการติดเชื้อหรือการเคลื่อนตัวของฟิลเลอร์ในช่วงแรก ควรงดการจับ แกะ เกา หรือบีบบริเวณที่ฉีดค่ะ
- งดการแต่งหน้าหรือใช้เครื่องสำอาง หลังฉีดฟิลเลอร์ควรงดการใช้เครื่องสำอางบนใบหน้าอย่างน้อย 24 ชั่วโมง เพื่อลดโอกาสการติดเชื้อหรือการระคายเคืองบริเวณที่ฉีดค่ะ
- หลีกเลี่ยงการนอนตะแคง เพื่อลดการกดทับบริเวณใบหน้า หากเป็นไปได้ควรหาหมอนข้างมากันใบหน้าไว้ทั้งสองด้านค่ะ
- ห้ามออกกำลังกายหนัก ๆ หลังฉีดฟิลเลอร์อย่างน้อย 48 ชั่วโมง ควรงดกิจกรรมที่ทำให้เหงื่อออกมาก เช่น วิ่ง ยกเวท หรือคาร์ดิโอหนัก ๆ เพราะอาจทำให้ฟิลเลอร์เคลื่อนตัวและเกิดการระคายเคืองได้ค่ะ
- ห้ามดื่มแอลกอฮอล์และสูบบุหรี่ หลังฉีดฟิลเลอร์อย่างน้อย 48 ชั่วโมง แอลกอฮอล์และนิโคตินสามารถทำให้หลอดเลือดขยายตัว และเสี่ยงต่อการบวมแดงและระคายเคืองได้ค่ะ
- หลีกเลี่ยงความร้อน เช่น การทำเลเซอร์ การอบซาวน่า หรือการทำทรีตเมนต์ที่ใช้ความร้อนบนผิว ควรงดอย่างน้อย 1 เดือน เพื่อไม่ให้ฟิลเลอร์สลายเร็วเกินไปค่ะ
คำถามที่พบบ่อยหลังฉีดฟิลเลอร์
หลังฉีดฟิลเลอร์ห้ามกินอะไรบ้าง ?
หลังฉีดฟิลเลอร์ ควรหลีกเลี่ยงอาหารบางประเภทที่อาจกระตุ้นให้เกิดอาการบวม อักเสบ หรือทำให้ฟิลเลอร์เข้าที่ช้าลง ควรหลีกเลี่ยงอาหารเหล่านี้ในช่วง 14 วันหลังทำ (หากไม่สามารถทำได้จริง ๆ ควรงดอย่างน้อย 48 ชั่วโมงค่ะ)
- อาหารหมักดอง เช่น ปลาร้า กะปิ และผักดองต่าง ๆ
- อาหารรสจัด เค็มจัด หรือหวานจัด อาหารที่มีรสจัด หรือมีเกลือและน้ำตาลสูง
- อาหารร้อน ๆ และอาหารเผ็ด เช่น ปิ้งย่าง ชาบู หรือหมูกระทะ
- อาหารดิบและกึ่งสุกกึ่งดิบ เช่น ซาชิมิ หอยนางรม หรืออาหารทะเลดิบ
- เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ควรงดเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ทุกชนิดในช่วง 2 สัปดาห์แรก
หลังฉีดฟิลเลอร์ออกกําลังกายได้ไหม ?
หลังฉีดฟิลเลอร์ควรหลีกเลี่ยงการออกกำลังกายหนัก ๆ กิจกรรมที่ทำให้หน้าแดง หรือการออกแดดจัด เพราะความร้อนและเหงื่อสามารถส่งผลต่อการเซตตัวของฟิลเลอร์ และอาจทำให้เกิดการอักเสบได้ แนะนำให้เลี่ยงกิจกรรมเหล่านี้อย่างน้อย 48 ชั่วโมงค่ะ
หลังฉีด Filler นอนตะแคงได้ไหม ?
การนอนหลังฉีดฟิลเลอร์ควรนอนในท่าหงายอย่างน้อย 1-2 วันแรก เพื่อให้ฟิลเลอร์เข้าที่และลดโอกาสการเคลื่อนตัวของฟิลเลอร์ค่ะ การนอนตะแคงอาจทำให้เกิดแรงกดทับบนใบหน้าข้างใดข้างหนึ่งและเสี่ยงทำให้ฟิลเลอร์เคลื่อนที่ได้ ถ้าหลีกเลี่ยงการนอนตะแคงได้จะดีที่สุดค่ะ
อาการบวมหลังฉีดฟิลเลอร์ หายเองได้ไหม ?
อาการบวมหลังฉีดฟิลเลอร์เป็นเรื่องปกติ ส่วนใหญ่เกิดจากการบวมบริเวณรอยเข็ม ซึ่งสามารถหายเองได้ค่ะ อาการบวมนี้จะค่อย ๆ ลดลงภายใน 2-3 วัน หากมีอาการปวด สามารถทานยาแก้ปวดเพื่อบรรเทาอาการได้ตามความเหมาะสม ไม่ต้องกังวลค่ะ
สรุปหลังฉีดฟิลเลอร์ ดูแลตัวเองอย่างไร
หลังฉีดฟิลเลอร์ ทุกคนสามารถนำวิธีการดูแลตัวเองที่บทความนี้นำมาฝากไปใช้ได้เลยค่ะ รับรองว่าจะช่วยให้ยุบบวมเร็ว และฟิลเลอร์เข้าที่ไว ผลลัพธ์ออกมาดีอย่างแน่นอน
สำหรับใครที่อยากให้หลังฉีดฟิลเลอร์ ผลลัพธ์ปัง ยุบบวมแล้วดูสวยทันที แนะนำให้เลือกคลินิกความงามที่น่าเชื่อถือ ฉีดฟิลเลอร์กับคุณหมอมากประสบการณ์ และเช็กฟิลเลอร์ของแท้ทุกครั้งค่ะ